ครม.เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.จราจร เพิ่มโทษหนักขึ้น

23093326ทำเนียบฯ 4 ม.ค.- ครม.เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.จราจร เพิ่มบทลงโทษหนักขึ้น  ผู้ขับขี่ ไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง ให้ชะลอการชำระภาษีประจำปี ยึด หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่  เพิ่มโทษเมาแล้วขับ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 10,000 – 20,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต  และเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาล หากทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 2 – 6 ปี  ปรับ 40,000 – 120,000 บาท  พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 2 ปี  หรือเพิกถอนใบอนุญาต และ หากทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3 – 10 ปี  ปรับ 60,000 – 200,000 บาท  และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่  เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกรงกลัวต่อการกระทำผิด เพื่อให้มาตรการป้องกันอุบัติภัยมีประสิทธิภาพ


พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจาก วันที่ 1 มีนาคม 2559  ครม.มีมติ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ …..)  พ.ศ. ….. (เพิ่มช่องทางชำระค่าปรับ) ได้เพิ่มโทษปรับความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญาฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 22)  พ.ศ. 2558  จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท  ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ. 2522 นั้นส่วนใหญ่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่   พนักงานจราจร  พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบ โดยที่ผ่านมามีผู้กระทำความผิดแล้วได้รับใบสั่งให้ชำระค่าปรับแต่มิได้ชำระ  ซึ่งพบว่ามาตรการที่ใช้บังคับยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายได้ผลเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังพบว่ามีการรวมกลุ่ม การมั่วสุม หรือพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญและขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งควรมีการกำหนดความผิดและโทษสำหรับการกระทำดังกล่าวด้วย

ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ครม.ได้อนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ …..)  พ.ศ. ….. โดยมีสาระสำคัญ คือ  1.ปรับปรุงอัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษที่พนักงานเจ้าหน้าที่  พนักงานจราจร  พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบให้เหมาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับประมวลกฎหมายอาญาที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมไปแล้วในมาตราต่าง ๆ เช่น มาตรการบังคับผู้ขับขี่ที่ได้รับใบสั่งแล้วไม่ไปชำระค่าปรับ  มาตรการนำรถที่ใช้ในการกระทำความผิดมาเก็บรักษาและกำหนดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา  การป้องปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด ส่งผลให้มาตรการป้องกันอุบัติภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น  2.แก้ไขเพิ่มเติมน้ำหนักของรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจากเดิม 1,600 กก. เป็น 2,200 กก. ที่ไม่ต้องขับในช่องเดินรถด้านซ้ายสุดหรือช่องที่ใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทาง


พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า 3.ผู้ขับขี่ต้องจัดให้คนโดยสารในรถทุกคนทุกที่นั่งรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ (เดิมระบุเฉพาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า) 4.เพิ่มมาตรการบังคับผู้ขับขี่ที่ไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง  โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ออกหนังสือแจ้งเตือนผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถให้มาชำระค่าปรับภายใน 15 วัน  หากยังไม่ปฏิบัติให้ชะลอการรับชำระภาษีประจำปีไว้ก่อน และให้นายทะเบียนมีอำนาจยึดหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของบุคคลนั้น

5.กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่  พนักงานจราจร พนักงานสอบสวน มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบลมหายใจ ปัสสาวะ เลือดหรือวิธีการอื่นอย่างชัดแจ้งว่าผู้ขับขี่ ได้ดื่มสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งต้องกระทำเท่าที่จำเป็นและสมควรโดยให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและอนามัยของผู้ขับขี่ (ปัจจุบันไม่ได้ระบุว่าการทดสอบให้ใช้วิธีการใดบ้าง)  6.มาตรการยึดและเก็บรักษารถที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบางฐาน (ชั้นตำรวจ) ได้แก่ ฐานขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น  ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น  แข่งรถในทางโดยมิได้รับอนุญาต ….. กำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่ต้องชำระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษารถดังกล่าว (คำสั่ง คสช. 46/2558 มากำหนดไว้ในกฎหมายนี้)

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า 7.เพิ่มอัตราโทษในความผิดฐานแข่งรถในทางโดยมิได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 6,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ (เดิมจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท) 8.กำหนดความผิดและโทษของการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมหรือพฤติการณ์ที่จะรวมกลุ่มเพื่อมั่วสุมที่นำไปสู่ความผิดตามข้อที่ 7) จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 3,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


9.แก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอื่นๆ เป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 10,000 – 20,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต  และเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาล (ไม่เกิน 7 วัน) ด้วย (เดิมจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 – 20,000  บาท)  หากกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ จำคุก 1 – 5 ปี  ปรับ 20,000 – 100,000 บาท  พักใช้ใบอนุญาต ไม่น้อยกว่า 1 ปี  หรือเพิกถอนใบอนุญาต  หากกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 2 – 6 ปี  ปรับ 40,000 – 120,000 บาท  พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 2 ปี  หรือเพิกถอนใบอนุญาต และ หากกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3 – 10 ปี  ปรับ 60,000 – 200,000 บาท  และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

10.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีอำนาจกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ 11.กำหนดให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมีอำนาจสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ได้ด้วย  12.ผู้สั่งยึดใบขับขี่อาจบันทึกการยึดและคะแนน และดำเนินการอบรมทดสอบผู้ขับขี่ที่กระทำผิดซ้ำตั้งแต่ 2 ครั้งใน 1 ปี รวมทั้งสั่งพักการใช้ใบอนุญาตขับขี่ที่เสียคะแนนมากของผู้ขับขี่นั้นโดยมีกำหนดครั้งละไม่เกิน 90 วัน 13.ผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดซ้ำภายใน 1 ปี  ให้เพิ่มจำนวนค่าปรับขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 2 เท่าของจำนวนค่าปรับที่ได้ชำระในความผิดครั้งก่อน และ 14.ผู้ประกอบการรับจ้างบรรทุกคนโดยสารโดยรถแท็กซี่ที่ไม่จอดรถ ณ สถานที่ที่กำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท (เดิม 1,000 บาท) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมยวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก […]

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]