กรุงเทพฯ ธ.ค.-หลังจากมีพระราชองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ด้านเศรษฐกิจ นายอุตตม สาวนายน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพิชิต อัครทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ นางอรรถชกา ศรีบุญเรือง รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสหากรรมยายนต์ สภาอุตหสากรรมแหงประเทศไทย แสดงความพอใจรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ มองว่าหลายท่านอยู่ในกลุ่มเดิมของนายสมคิด เมื่อได้ผ่านงานมาหลายกระทรวง มีความรู้รอบด้านกว้าง จะทำให้การประสานงานได้ดีขึ้น จึงมองว่าทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะช่วยต่อยอดงานด้านเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตไปได้ นับว่าภาคเอกชนมีความพอใจกับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทการจัดการภาครัฐและเอกชน (MPPM)สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า จากประวัติรายชื่อของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และถูกสลับหมุนเวียนอยู่หลายตำแหน่ง และหลายคนเป็นนักคิด นักยุทธศาสตร์ จึงมีผลงานออกมามากหมายหลายมาตรการ แต่ยังขาดการเร่งรัดผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นการบ้านจากนี้ไปต้องเป็นเรื่องของการขับเคลื่อนมาตรการที่ออกไปแล้วให้มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ
เนื่องจากรัฐมีงบลงทุน 5 แสนล้านบาท ยังตกค้างจากปีก่อน 1 แสนล้านบาท เงินลงทุนรัฐวิหสกิจ 3.5 แสนล้านบาท ตกค้างจากปีก่อน 1 แสนล้านบาท รวมๆแล้วเงินลงทุนผ่านโครงการภาครัฐกว่า 1 ล้านล้านบาท หากผลักดันให้หมุนเวียน เกิดการลงทุนจะสง่ผลต่อเศรษฐกิจได้อีกมาก เพราะหากต้องพึ่งเอกชนในขณะนี้คงยาก เพราะกำลังการผลิตของเอกชนมีเพียงร้อยละ 64 เครื่องจักรอีกร้อยละ 36 ยังว่างงาน หากขยายกำลังการผลิต คงไม่ได้เพราะยังมีกำลังว่างงานอีกมาก เนื่องจากกำลังซื้อภาคเกษตร ภาคครัวเรือนลดลง การส่งออกเพิ่งพาได้น้อย จึงเหลือการลงทุนจากภาครัฐที่ต้องทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมให้ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย