กรุงเทพฯ 17 ธ.ค.-ประธาน สรท.ขานรับทีมเศรษฐกิจใหม่ เชื่อจะทำงานได้ดี แต่ห่วงหลายปัจจัยปีหน้าไม่สู่ดีนัก เช่น เศรษฐกิจโลก และแนวนโยบายของสหรัฐ
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) การปรับคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ประกาศรายชื่อออกมาแล้ว เชื่อว่านายกรัฐมนตรีได้พิจารณาและหาบุคคลที่มีความรู้แล้วความสามารถมีความเหมาะสมอย่างยัง โดยเฉพาะระยะเวลาที่เหลือของรัฐบาลเพียงปีเศษผู้ที่เข้ามาจะสามารถบริหารและจัดการเรื่องต่างๆได้รวดเร็วและเห็นผลได้ดีขึ้น ดังนั้น เอกชนส่วนใหญ่จึงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในปี 2560 มีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวได้ดีขึ้นหรือไม่ แต่แนวโน้นยังชะลอตัว รวมถึงแนวทางและนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ว่าจะออกมาอย่างไรจะใช้นโยบายการปกป้องการเปิดเสรีด้วยการกีดกันทางการค้า และการเมืองระหว่างประเทศที่เป็นปัจจัยหลักทำให้เศรษฐกิจโลกในปีหน้ายังไม่ฟื้นตัวส่งผลให้เศษฐกิจไทยจะยังไม่ฟื้นตัวไปด้วย ดังนั้น ในปีหน้าเศรษฐกิจในประเทศโดยเฉพาะจีดีพีจะเติบโตอยู่ทีร้อยละ 3.5 จะมาจากแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่จะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อเสริมสภาพคล่องเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตได้ตรงตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงไตรมาส 1-2 ปีหน้า จะเป็นการลงทุนจากภาครัฐบาลผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวภาคเอกชนไทยน่าจะกลับเข้ามาลงทุนได้ แต่เห็นว่าในปีหน้าปัจจัยเสี่ยงยังมีอยู่มากที่จะกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศและภาคการส่งออกของไทยแม้ว่าจะมีงบลงทุนจากรัฐบาลผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การซบเซาเศรษฐกิจโลก ความผันผวนตลาดการเงิน ราคาน้ำมันจะอยู่ในช่วงขาขึ้นจริงหรือไม่ เทคโนโลยี่จะเข้ามาเปลี่ยนระบบอย่างรวดเร็วในการผลิตสินค้า ทิศทางนโยบายการค้าเสรีจะเป็นอย่างไร และการเมืองระหว่างประเทศของแต่ละประเทศมหาอำนาจทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น จะเป็นการค้าเสรีหรือการใช้นโยบายปกป้องหรือกีดกันทางการค้า ถือว่าเป็นปัจจัยที่ไทยต้องเร่งรับมือ เช่น ต้องปรับมาตรฐานสินค้าไทยให้เข้าสู่สากลและเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานสูงกว่าปัจจุบัน และสิ่งที่ต้องเตรียมรับมือ คือ ปัญหาภัยธรรมชาติโดยเฉพาะแผ่นดินไหวในหลายประเทศที่จะกระทบต่อการค้าของไทยและสิ่งที่กำลังวิตกปัญหาไข้หวัดนกระบาดในหลายประเทศที่ไทยต้องเร่งหามาตรการป้องกัน จึงคิดว่าการส่งออกของไทยในปีหน้าจากปัจจัยดังกล่าวโดยตัวเลขส่งออกที่ทาง สรท.ประเมินไว้มีจะอยู่ที่ร้อยละ 0-1 โดยในช่วง 2 ไตรมาสแรกปีหน้ายังมีโอกาสตัวเลขส่งออกจะยังติดลบอยู่และจะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้าได้.-สำนักข่าวไทย