โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ อิมแพค 19 ธ.ค.-ประวิช เผยกกต.เตรียมแถลงผลงานรอบ 3 ปีพรุ่งนี้ พร้อมพิจารณาพรป.ว่าด้วยกกต. ระบุเคยเสนอความเห็นความจำเป็นกกต.จังหวัดไปแล้ว เมื่อกรธ.ตัดสินใจไม่มี ต้องรอขั้นตอนสนช. ย้ำไม่ยึดติดตำแหน่ง พร้อมรับกติกาใหม่
นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานเปิดสัมมนาทบทวนและติดตามประเมินผลการดำเนินงานของวิทยากรกระบวนการ( วพป.) เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็นให้แก่วิทยากรให้มีความรู้ ทักษะและสามารถถ่ายทอดการขับเคลื่อนภารกิจศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล เสริมสร้างความรู้และพัฒนาทักษะการเป็นวิทยากร เพื่อเตรียมความพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งและการมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนปัญหา อุปสรรคและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการที่ผ่านมา เพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญประจำกรรมการการเลือกตั้ง ผู้บริหารและพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร
นายประวิช ให้สัมภาษณ์ว่า พรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) นอกจากกกต.จะแถลงผลงานครบรอบ 3 ปีแล้ว จะประชุมพิจารณาเกี่ยวกับเนื้อหาในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วย ซึ่งจะต้องดูว่ามีประเด็นอะไรที่จะต้องมีความเห็นเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. เพราะที่ผ่านมาได้แสดงความเห็นไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)แล้ว เมื่อกรธ.ตัดสินใจไปแล้วนตอนต่อไปก็เป็นหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งมั่นใจว่าร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งจะออกมาดีและนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองได้ แต่วิธีการปฏิบัติ หากมีสิ่งที่กกต.เห็นว่ายังติดขัดอยู่คงมีความเห็นไปตามสมควร
สำหรับกรณีคุณสมบัติใหม่ของกกต.ตามรัฐธรรมนูญที่อาจส่งผลกระทบให้นายประวิชต้องหลุดจากตำแหน่ง นายประวิช กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากพูดไปก็จะกลายเป็นเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ หน้าที่ของตนต้องดูเนื้อกฎหมายว่ามีอะไรบ้างที่จะทำให้การเมืองเดินไปด้วยดีในช่วงเปลี่ยนผ่าน
“ส่วนเนื้อหากฎหมายที่เพิ่มอำนาจให้กกต.มากขึ้น ต้องพิจารณาว่ากกต.จะต้องปรับตัวอย่างไรให้เป็นไปตามทิศทางที่รัฐธรรมนูญกำหนดเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น ขณะนี้กกต.ได้เตรียมการไว้แล้ว ทั้งเรื่องเครือข่ายประชาชนและการเตรียมความพร้อมสำหรับกระบวนการเลือกตั้งระบบใหม่ ผมเคยพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าเรื่องคุณสมบัติเป็นเรื่องของกรธ.และ สนช.จะพิจารณาว่าอะไรจะเหมาะสม ไม่ว่ากฎหมายจะออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น” นายประวิชกล่าว
นายประวิช กล่าวว่า กกต.ทุกชุดที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันปฏิบัติงานด้วยความกล้าหาญ สุจริต เที่ยงธรรม ส่วนอำนาจที่เพิ่มขึ้นต้องดูรายละเอียดว่าจะดำเนินการอะไรได้บ้าง เนื่องจากกกต.ถูกออกแบบมาไม่ให้เป็นองค์กรที่โตมากนัก แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ เมื่อกรธ.คิดรูปแบบใหมให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งมาแทน กกต.จังหวัดต้องดูว่าจะเดินหน้าอย่างไร โดย กกต.จะติดตามเรื่องนี้และดูทิศทางของสนช.ด้วย
“ที่ผ่านมากกต.ได้ทำความเห็นไปยังกรธ.แล้วว่ากกต.จังหวัดยังมีความจำเป็น เพราะช่วยในเรื่องจัดการเลือกตั้งและการติดตามต่าง ๆ ได้ ถ้าจะลดบทบาทลง เช่น ไม่ต้องมีเงินเดือนประจำ ให้เป็นเบี้ยประชุมเป็นครั้งคราว หรือจะเปลี่ยนวาระเร็วขึ้น แต่กรธ.เห็นว่าไม่ต้องมี ให้มีผู้สังเกตการณ์แทน ซึ่งที่พูดกันมากว่าไม่อยากให้มีกกต.จังหวัด เพราะปัญหาเดียวคือความสัมพันธ์กับนักการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ชอบพูดกันโดยไม่มีหลักฐาน ดังนั้นกรธ.งหาทางออกโดยไม่ให้มีกกต.จังหวัด แต่ให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งแทน ซึ่งเป็นทางเลือกในทางปฏิบัติ หากในชั้นการพิจารณาของสนช.ต้องการความเห็นเพิ่มเติมจากกกต.ก็พร้อมที่จะนำเสนอข้อมูล” นายประวิช กล่าว.-สำนักข่าวไทย