23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน
วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1
สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด
จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง
กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ได้พิจารณาถึงผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย จึงให้มีมาตรการดำเนินการ เพิ่มเติมในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ดังนี้
- 1.งดการผ่านเข้า – ออก ของยานพาหนะทุกประเภท
- 2.งดการเดินทางผ่านเข้า – ออก ของประชาชน, นักท่องเที่ยว, ทั้งชาวไทย, ชาวต่างชาติและการค้าขายทุกประเภท
- 3.ตามข้อ 1และ ข้อ 2อนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม และความจำเป็น เช่น ด้านการรักษาพยาบาล, การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน และด้านการศึกษาของนักเรียน รวมทั้งการดำเนินการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่ง(เฉพาะ) เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุมการผ่านแดน ในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, จุดผ่านแดนถารช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
เนื่องด้วยปัจจุบันปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกล้ำอธิปไตย ในพื้นที่ของประเทศไทย โดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์บริเวณปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย อีกทั้งได้ปรากฏการก่ออาชญากรรมข้ามชาติขบวนการ Call Center และ Hybrid Scam
เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพภาคที่ 2 จึงให้ยกเลิก คำสั่งกองทัพภาคที่ 2 (เฉพาะ) ที่ 136/2568 ลง 21 มิถุนายน 2568 เรื่อง อนุมัติปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และกำหนดมาตรการควบคุมการผ่านแดน บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, จุดผ่านแดนถาวร ช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีมาตรการ ดังนี้
- 1.งดการผ่านเข้า – ออก ของยานพาหนะทุกประเภท
- 2.งดการเดินทางผ่านเข้า – ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยว
- ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
- 3.ตามข้อ 1 และ ข้อ 2 อนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม เช่น ด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วนด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในพื้นที่ การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือนตามความเหมาะสมและจำเป็น เป็นต้น


เช่นเดียวกับ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ออกคำสั่ง(เฉพาะ)ที่ 1092/2568 เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุมการผ่านแดน ในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต่าบลเทพนิมิต อําเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตําบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ตําบลหาดเล็ก อําเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด จุดผ่อนปรนการค้า บ้านซับตารี ตําบลทุ่งขนาน อําเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี จุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม ตําบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง ตําบลนนทรีย์ อําเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคําสั่งกองทัพเรือจึงให้หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรีและหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ควบคุม การสัญจรข้ามแดนของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการตลอดจนแรงงานในพื้นที่ ผ่านจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าทุกแห่งในพื่นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดดังนี้
- 1. งดการเดินทางผ่านเข้า – ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
- 2. งดการผ่านเข้า – ออก ของยานพาหนะทุกประเภท
- 3. ตามข้อ 1 และข้อ 2 อนุญาตให้อํานวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม เช่น ด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน ด้านการศึกษา นักเรียนและนักศึกษาในพื้นที่ การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ตามความเหมาะสม และจําเป็น เป็นต้น -สำนักข่าวไทย