กต.เผยแรงงานไทยในอิสราเอล-อิหร่าน กลับไทยลอตแรกคืนนี้

กระทรวงการต่างประเทศ 23 มิ.ย.-โฆษก กต.เผยแผนช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล-อิหร่านกลับไทย ลอตแรกคืนนี้ ชี้สถานการณ์แนวโน้มทวีความรุนแรงรวดเร็ว วอนคนไทยออกนอกพื้นที่ ด้าน กต.พร้อมประสานช่วยเหลือ 24 ชม. ยันไม่ถึงขั้นสั่งอพยพ


นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเกี่ยวกับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง ว่าตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความกังวลอย่างยิ่ง ในตะวันออกกลางและสั่งการช่วยเหลือคนไทยได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยในอิสราเอล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รวมถึง เอกสถานทูตไทยในภูมิภาคได้ประสานงานกับบริษัทก่อสร้างที่ต้องการนำแรงงานชุดแรก 22 คนกลับประเทศไทยแล้ว โดยได้เดินทางออกจากอิสราเอลทางบกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะเดินทางถึงไทยในวันนี้ (23 มิ.ย.) เวลา19.20น. 22คนแรก และ สถานเอกอัครราชทูตยังอยู่ระหว่างการช่วยเหลือคนไทยที่ประสงค์จะออกจากเทลอาวัฟ 12 คนเพื่อเดินทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่นกันโดย 9 คนจะออกจากอิสราเอลทางบก ในวันที่ 25 มิถุนายนและอีก 3 คนจะเดินทางออกจากอิสราเอลในวันที่ 3 กรกฎาคม สถานเอกอัครราชทูตและฝ่ายแรงงานกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับบริษัทจัดหางานภาคการก่อสร้างถึงความเป็นไปได้ที่จะย้ายแรงงานภาคการก่อสร้าง ในอิสราเอลยอีกประมาณ 3000 คน ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรอดูสถานการณ์หรือเดินทางกลับประเทศไทย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า สำหรับในอิหร่าน สถานเอกอัครราชทูตณกรุงเตหะราน ได้ช่วยเหลือคนไทยชุดแรก เดินทางออกนอกประเทศ ให้เดินทางออกทางบก ไปทางประเทศเพื่อนบ้านโดยปลอดภัยแล้ว ในคืนวันที่21 มิถุนายน 2568 จะเตรียมการเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป รวมถึงอยู่ระหว่างการช่วยเหลือคนไทย อีก73 คนที่ประสงค์ออกจากอิหร่านให้ เดินทางทางทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และด้วยสถานการณ์ที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างมากในกรุงเตหะราน สถานสถานเอกอัครราชทูตจึงได้เปิดสถานที่ทำการชั่วคราว รวมถึงศูนย์พักพิงและให้ความช่วยเหลือคนไทยที่โรงแรม


ซึ่งเป็นเมืองชายแดน ติดอยู่กับอิหร่านโดยคนไทยสามารถ ติดต่อ ขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตที่หมายเลขเดิม
นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่า เนื่องจากสถานการณ์อิสราเอลและอิหร่านมีความไม่แน่นอนสูงและแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ใน อิสราเอล และอิหร่านพิจารณาเดินทางออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของท่านเองและสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตทั้งสองแห่งได้ตลอดเวลา ขณะนี้ความตึงเครียดมีการขยายตัวมากขึ้น จึงขอให้คนไทยในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคติดตามข่าวสารและประกาศของสถานเอกอัครราชทูตอย่างใกล้ชิด และติดตามประสารจากทางสถานเอกอัครราชทูตทั้งสองแห่งอย่างใกล้ชิดและสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Thai consula

ส่วนการที่สหรัฐเข้าร่วมสงครามในตะวันออกกำลังจะส่งผลกระทบต่อท่าทีของไทยอย่างไรนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่ ในชั้นนี้ยังไม่ส่งผลกระทบ ยังเป็นประเด็นปัญหาระวังอิสราเอลกับอิหร่านอยู่ การที่สหรัฐเข้ามาร่วมรบด้วย ก็อย่างที่ทราบว่า ไทยมีท่าทีที่เป็นกลางกับสหรัฐ หรือกับประเทศใดใด ๆ และในมุมของการช่วยเหลือคนไทยก็ไม่มีผลกระทบใด ๆ เราสามารถช่วยเหลือคนไทยออกมาได้ด้วยตัวเราเอง

สำหรับการอพยพออกดำเนินการทางบุกเท่านั้นสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะแอร์สเปซ หรือน่านฟ้าปิดทั้งอิหร่านและอิสราเอล ดังนั้นคนไทยที่ประสงค์จะออก ก็จะต้องออกทางประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ส่วนในอนาคตเมื่อน่านฟ้าเปิด คิดว่าการจะขอเข้าไป ก็คงต้องทำเป็นกรณีกรณีไป โดย ไม่ว่าจะเป็นด้านอิสราเอลหรืออิหร่าน คงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการบินเข้า ในชั้นนี้การเข้าไปอพยพคนออกมา จึงไม่ใช่ออปชั่นและตอนนี้คนไทยยังมีความอุปสงค์ ที่จะอยู่ในอิหร่าน แต่ในส่วนของเราสนับสนุนให้ออกโดยมีการประสานทุกช่องทาง แต่คนไทยตอนนี้ยังรู้สึกไม่มีความจำเป็นจะออก ดังนั้นเราสนับสนุน และเราแนะนำให้ออก และจะช่วยให้ออก ในช่องทางที่อำนวยความสะดวก คือทางบก แต่หากมีคนไทยจำนวนมากพอที่ต้องการจะออกแล้วประสงค์ คงจะต้องหารือกันเป็นกรณีไป โดยขอไปว่าเราจะขอออกได้หรือไม่ ซึ่งจำนวนประชากรคนไทย ในเตหะรานมีประมาณ 300 กว่าคน และในชั้นนี้กำลังแพลนจะออกประมาณ73 คน ดังนั้นจะเหลือจำนวนไม่มาก และตอนนี้ยังไม่มีความประสงค์จะออก


“เรามีศูนย์ติดตามสถานการณ์ฉุกเฉินที่ดูสถานการณ์เป็นรายชั่วโมงและรายวัน ถามว่าก็มีขั้นตอนและระดับขั้นของการพิจารณาในการให้ย้ายคนออกในชั้นนี้ เราคิดว่าคนที่อยู่ในพื้นที่ควรจะออก เช่น ออกจากเมืองเตหัรานไปอยู่ในที่ปลอดภัยในศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากให้ทำ แต่ยังไม่ถึงจุดที่เราคิดว่าจะต้องอพยพและเมื่อไหร่ถึงจุดนั้น เราก็จะทำ ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้มีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้น สถานการณ์มีความเปราะบางสูงมาก คาดการณ์อะไรได้ยาก ดังนั้นการลำเลียงคนออกจากเมืองหลวงไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางถนน บางทีต้องใช้ถนนที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่สั้นที่สุด แต่ต้องปลอดภัยจากอาวุธ เป็นเส้นทางที่ผ่านภูเขา และภูมิศาสตร์ที่ไม่ง่ายนัก ไม่กี่ร้อยกิโล แต่ใช้เวลาเป็นสิบชั่วโมง และยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ แต่ทางสถานทูตก็ได้คิดและเดินทางไปดูทุกเส้นทางแล้ว จะเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดแม้จะยาวหน่อยแต่ปลอดภัยกว่า

สำหรับข้อแนะนำถึงแรงงานไทยในอิสราเอลนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า ว่าเราแนะนำให้ออกจากพื้นที่ และเป็นคำแนะนำที่ซีเรียส เราเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ตรงส่วนให้ความช่วยเหลือและสถานทูตก็จะทำงาน 24 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับข้อความและตัดสินใจได้ พร้อมให้ความช่วยเหลือ และพร้อมจะพาไปในที่ปลอดภัยรวมถึงพากลับบ้าน ไม่มีอะไรต้องกังวลในส่วนนั้น คำแนะนำคือออก ขณะเดียวกันสถานทูตเองก็ต้องเปิดตลอดต้องทำด้วยความพร้อม ด้วยความเต็มใจ เพราะการช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากในภาวะนั้นเป็นความสำคัญอันดับแรกของกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า พวกเราสถานเอกอัครราชทูตก็ต้อง ใช้ความรัดกุมในการทำงานหรือเดินทางให้น้อยที่สุด เพราะอยู่ในอันตรายเท่าๆ กับคนไทย ในพื้นที่ แต่ก็จะยังอยู่จนกว่าคนไทยจะปลอดภัย ส่วนของอิสราเอลที่มีคนไทยจำนวนมากได้ส่งทีมเข้าไปเสริมอีกทีมเพื่อไปช่วยสถานเอกอัครราชทูตด้วยซึ่งขณะนี้เดินทางไปแล้ว เพื่อดูว่าในกรณีที่คนไทยจำนวนมากประสงค์ที่จะออก จะมีแบ็กอัปทีมที่จะคอยดู โดยต้องอยู่ปักหลักรอเผื่อมีคนไทยมาติดต่อ อีกทีมต้องไปสำรวจเส้นทาง ยืนยันพร้อมไม่ต้องกังวล.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]