fbpx

ร้องสื่อ นร.หญิง 2 คนถูกครูข่มขืน อนาจาร

อุดรธานี 19 ธ.ค.-ผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ร้องสื่อ หลังหมดทางสู้กับครูในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง ที่ก่อเหตุข่มขืนและทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงถึง 2 คน


เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนว่า มีครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 ลูกศิษย์ตัวเองถึง 2 คน ในห้องพักของครู ซึ่งที่ผ่านมามีการเข้าแจ้งความที่ สภ.เพ็ญ ไปแล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า

โดยผู้ปกครองของนักเรียนหญิงของโรงเรียนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เพราะไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัว เกรงกลัวอิทธิพลของครูคนดังกล่าว บอกว่า เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 58 โดยบุตรสาววัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ได้ถูกครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ที่โรงเรียนดังกล่าว หลอกให้เข้าไปทำงานในห้องพักครูหลังเลิกเรียน จากนั้นได้บังคับข่มขืนกระทำชำเราบุตรสาวจนสำเร็จความใคร่ แต่ตอนนั้นบุตรสาวไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคม 58 ครูคนดังกล่าว ยังได้ทำอนาจารกับ ด.ญ.บี นักเรียนชั้น ม.2 อีกราย ในห้องพักครูเช่นเดิม ต่อมาบุตรสาวและเด็กอีกคน ได้เล่าให้ตนเองและผู้ปกครองฟัง จึงพากันไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เพ็ญ เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับครูรายนี้ ผู้ปกครองของนักเรียนหญิงชั้น ม.2 รายนี้ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ได้ย้ายบุตรสาวไปเรียนที่โรงเรียนอื่นแล้ว ส่วนเด็กนักเรียนหญิงอีกคนที่ถูกทำอนาจาร ยังเรียนอยู่ที่เดิม แม้จะแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว แต่ครูคนดังกล่าวยังคงสอนอยู่ที่เดิม


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เพ็ญ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง กับทาง ร.ต.อ.ธนวัตน์ ทองวิลัย พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 58 มีผู้ปกครองนักเรียนไปร้องเรียนที่โรงเรียนว่า ลูกสาวถูกครูข่มขืนและทำอนาจาร แต่ทางโรงเรียนอ้างว่าขณะนั้นโรงเรียนไม่มี ผอ.มีแต่ รอง ผอ.รักษาการ ไม่มีอำนาจเต็มที่จะดำเนินการได้ ต่อมาวันที่ 18 ธันวาคม 58 ผู้ปกครองจึงได้พาเด็กนักเรียนมาแจ้งความ ซึ่งได้ทำการสอบปากคำเด็กทั้ง 2 คน โดยเหตุเกิดกับเด็กนักเรียนคนแรกกลางเดือนมิถุนายน 58 และเด็กคนที่ 2 กลางเดือนสิงหาคม 58 และจากการสอบถามผู้ปกครอง ที่ทราบจากเด็กนักเรียน บอกว่ายังมีเด็กนักเรียนอีกหลายคน ที่ถูกข่มขืนและทำอนาจาร แต่ไม่มีใครกล้าเข้าแจ้งความ

หลังรับแจ้งความได้ลงพื้นที่ไปตรวจที่เกิดเหตุถึง 3 ครั้ง แต่ปรากฏว่าทางโรงเรียนไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมเปิดประตูให้เข้า อ้างว่าลืมกุญแจบ้าง กุญแจอยู่กับคนนั้นคนนี้บ้าง แต่สุดท้ายก็เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้สอบปากคำเด็กนักเรียนรวบรวมพยานหลักฐานสั่งฟ้องไปแล้ว ซึ่งเด็กคนแรกที่ถูกข่มขืน แพทย์ตรวจพบร่องรอยการถูกข่มขืนจริง และสอบสวนทราบอีกว่า มีการพาเด็กไปที่รีสอร์ตด้วยครั้งหนึ่ง ส่วนเด็กรายที่ 2 โดนนิ้วแหย่ทำอนาจาร ตอนนี้อัยการรับสำนวนส่งฟ้องศาลไปแล้ว ในข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี และพยายามข่มขืนกระทำชำเราอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี”

ร.ต.อ.ธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ซึ่งหลังสั่งฟ้อง ศาลได้นัดสืบคดีแรกวันที่ 22 ธันวาคม นี้ ส่วนคดีที่ 2 วันที่ 17 มกราคม ปีหน้า ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของครูคนดังกล่าวพบว่า เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราและอนาจารเด็กนักเรียน ในปี 49 ด้วย


พ.ต.อ.นวาระ จันนาวัน ผกก.สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ต่อจากนี้จะให้ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวว่ามีเด็กนักเรียนคนไหนที่ถูกครูคนนี้กระทำอนาจารอีกหรือไม่ พร้อมฝากถึงผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เคยถูกครูคนดังกล่าวข่มขืนหรือทำอนาจาร ให้รีบมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายคนแน่นอน

ด้าน ผอ.โรงเรียน เปิดเผยว่า เพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ยังทำงานได้ไม่ถึงเดือน แต่ก็พอทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้าง ตอนนั้นมีรอง ผอ.รักษาการ ผอ.โรงเรียน จากการตรวจสอบพบว่า ทางโรงเรียนได้ส่งเรื่องให้ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 20 หรือ สพม.20 ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ผลการสอบสวนเป็นอย่างไร อยู่ที่ทาง สพม. 20 ส่วนตัวครูผู้ถูกกล่าวหานั้น ได้เรียกตัวมาสอบถาม ก็ปฏิเสธและบอกแต่ว่า จะขอขึ้นศาลไม่ขอตอบอะไรทั้งสิ้น

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อครูที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ก่อเหตุ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ได้รับแจ้งจากครูคนดังกล่าวว่าไม่พร้อมจะให้ข่าวกับผู้สื่อข่าว โดยจะรอขึ้นศาลเพียงอย่างเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด