fbpx

3 แบงก์รัฐออกมาตรการลดภาระผู้มีรายได้น้อย

ก.คลัง  21 ธ.ค. – นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่และครอบคลุมการดูแลลูกค้าในช่วงนี้ เพื่อให้มีกำลังซื้อในช่วงท้ายปี มาช่วยเหลือของแบงก์รัฐ  เพื่อช่วยดูแลลูกค้าทั้งมาตรการระยะสั้นช่วงปีใหม่และมาตรการช่วยเหลือระยะปานกลาง


นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการ  ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย มติ ครม. ตั้งแต่วันที่15 กันยายนที่ผ่านมาได้เห็นชอบลูกค้าวงเงินกู้ไม่เกิน  300,000 บาท สำหรับลูกหนี้ดีหากชำระเงินคืนติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน  2559 – 31 ตุลาคม 2560 ชำระติดต่อกัน 12 งวด จากนั้น ธ.ก.ส.จะคืนเงินให้ร้อยละ 30 ของภาระดอกเบี้ยนำส่ง หากมีสัญญาหนี้ค้างจะตัดยอดหนี้เดิม แต่หากหมดสัญญาหนี้จะโอนเงินเข้าบัญชี คาดว่ามีภาระยอดหนี้กระทบต่อยอดบัญชี ปี 2559 และปี 2560  กลุ่มเป้าหมาย 2.2 ล้านราย รวมเงินต้นคงเหลือ 272,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยคืนให้เกษตรกรเป็นเงิน  5,700 ล้านบาท  นอกจากนี้  ยังลดค่าธรรมเนียมการโอน  การกดเงินผ่านตู้เอทีเอ็มข้ามเขต ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 3 มกราคม เพื่อลดภาระให้กับลูกค้าเกษตรกร

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและเป็นขวัญกำลังใจให้ลูกหนี้ที่ดีช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และลดภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มกำลังซื้อในช่วงปีใหม่ จึงคืนเงินให้กับลูกหนี้โดยส่งใบเสร็จ ระบุว่า “ของขวัญปีใหม่ เพื่อส่งเสริมวินัยการเงิน สำหรับลูกค้า ธอส.ผู้มีรายได้น้อย” โดยคืนเงิน 1,000 บาท สำหรับลูกค้ามีหลักประกันทุกรายวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ไม่เคยเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) และมีประวัติผ่อนชำระดีต่อเนื่อง 48 งวด และต้องชำระเงินงวดของเดือนธันวาคม 2559  จึงให้นำใบเสร็จดังกล่าวมาขึ้นเงินได้ที่เคาน์เตอร์ ธอส. กลุ่มเป้าหมาย 178,000 ราย เป็นเงิน 178 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม – 11 มกราคม 2560


ขณะที่ธนาคารออมสินได้มอบของขวัญปีใหม่คืนเงินให้ลูกหนี้ชั้นดีต้อนรับปีระกาผ่านมาตรการต่าง ๆ สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย  ประกอบด้วย กลุ่มฐานรากมอบของขวัญผ่านโครงการคืนดอกเบี้ยให้ลูกค้าประวัติดี 1 ปี ขึ้นไป ยอดเงินกู้ไม่เกิน  200,000 บาทต่อราย คืนดอกเบี้ยให้ร้อยละ 1-3 หากส่งชำระต่อเนื่อง 1 ปี คืนเงินให้ร้อยละ 1 หากนำส่งต่อเนื่อง 2  ปี คืนเงินให้ร้อยละ 2 ชำระคืนให้ต่อเนื่อง 3 ปี คืนเงินให้ร้อยละ 3  ใช้เงินรองรับ 100 ล้านบาท คาดมีผู้ได้รับของขวัญโครงการนี้ 412,208 ราย  นอกจากนี้ ยังออก “สินเชื่อคืนความสุข”  มาตรการในช่วงปีใหม่สำหรับลูกค้าประวัติดีชำระหนี้ต่อเนื่อง 12 เดือน โดยไม่ต้องใช้หลักประกันกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท และหากเป็นลูกค้าธุรกิจชำระหนี้ดีต่อเนื่อง 1  ปี ได้รับสินเชื่อ 1 ล้านบาทต่อราย กลุ่มดังกล่าวมีเป้าหมายประมาณ 28,249 ราย ออมสินจะคืนดอกเบี้ยให้ร้อยละ 1-3

นอกจากนี้ ยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินภายในธนาคารออมสินและ ATM , Internet Banking, Mobile Banking ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559 – 3 มกราคม 2560  และยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในปี 2560 เพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อเป็นมาตรการดูแลระยะปานกลางให้กับลูกค้าของธนาคาร.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME