กรมสบส.24 พ.ย.-กรม สบส.ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลินิกดูดไขมันด้วยเทคนิคบอดี้ไทท์ย่านสยามสแควร์ หลังมีผู้ร้องเรียนทำหน้าท้องไหม้เป็นแผลเป็น ย้ำอย่าหลงเชื่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียด้านเดียว ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน หลังรับบริการดูดไขมันหน้าท้องที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์ กทม. ที่ให้บริการดูดไขมันด้วยเทคนิคบอดี้ไทท์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเกิดบาดแผลไหม้ที่หน้าท้องจนเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ ต้องเสียทั้งค่าบริการดูดไขมันและรักษาบาดแผลนับแสนบาท โดยหญิงรายนี้บอกว่าได้ค้นหาข้อมูลของคลินิกแห่งนี้ทางสื่อโซเชียลมีเดีย ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ
นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า ว่า ได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะและกองกฎหมาย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน โดยส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าวใน 4 ประเด็น1.มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรม สบส.ตามที่ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดหรือไม่ 2.แพทย์ที่ตรวจรักษา เป็นแพทย์จริงที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภาหรือไม่ 3.เครื่องมือที่ใช้ดูดไขมันหรือเครื่องมืออื่นๆ รวมทั้งยาเวชภัณฑ์ที่ให้บริการมีคุณภาพมาตรฐานและขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่ 4. ตรวจสอบการโฆษณาของคลินิกว่าเข้าข่ายการโฆษณาชวนเชื่อ ถึงความเชี่ยวชาญ หรือความชำนาญของแพทย์ตามวุฒิบัตรที่ได้รับจากแพทยสภาหรือไม่ หากพบตกเกณฑ์มาตรฐานข้อใดข้อหนึ่งจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายโดยทันที
นพ.ประภาส กล่าวว่า การโฆษณาของคลินิกที่ให้บริการเสริมความงาม สามารถเผยแพร่ได้ที่หน้าร้าน แต่การโฆษณาความชำนาญของแพทย์ผู้ให้บริการต้องตรงกับวุฒิบัตรที่ได้รับจากแพทยสภา ห้ามโอ้อวดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่ไม่มีวุฒิบัตร แต่ปัจจุบันคลินิกที่ให้บริการเสริมความงามมัก ใช้วิธีโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้โดยง่าย ใช้ข้อความโฆษณาโอ้อวด เกินจริง ทั้งเทคนิคการรักษา ความเชี่ยวชาญของแพทย์และผลลัพธ์การรักษาที่สนองความต้องการผู้ใช้ บริการ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเข้ารับบริการ โดยขาดการศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคน ศึกษาข้อมูลของคลินิกเหล่านี้ก่อนรับบริการทุกครั้ง เมื่อได้ข้อมูลชื่อคลินิกและแพทย์จากโซเชียลมีเดียแล้ว ให้นำมาตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ที่เว็บไซต์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (www.hss.moph.go.th) ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่เว็บไซต์แพทยสภา (www.tmc.or.th) หากไม่พบ หรือพบเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ควรเข้ารับบริการเด็ดขาดเพราะถือว่าคลินิกแห่งนั้นไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวผู้รับบริการได้ และให้รีบแจ้งสายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค กรม สบส. 02 193 7999 หรือเฟซบุ๊ค สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน กรม สบส. จะรีบดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า เทคนิคบอดี้ไทท์(Body Tite)เป็นวิธีการ “ดูดไขมัน” โดยใช้เครื่องมือส่งคลื่นวิทยุ ผ่านท่อขนาดเล็ก 1-3 มิลลิเมตร เข้าไปในชั้นไขมันเพื่อละลายไขมันให้เป็นน้ำและดูดออกจากร่างกายซึ่งก่อนให้บริการทุกครั้งแพทย์ต้องชี้แจงถึงผลลัพธ์ที่ได้และความเสี่ยงที่อาจเกิด ขึ้นเพื่อให้ผู้รับบริการได้รับข้อมูลที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจ .-สำนักข่าวไทย