กรุงเทพฯ 10 พ.ย. กูเกิล รายงานผลการวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน เชื่อปี 2563 มูลค่าตลาดยังโตแตะ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แม้เจอโควิด-19 แต่อีคอมเมิร์ซ สื่อออนไลน์ยังโตต่อ
นางแจ๊คกี้ หวาง ผู้อำนวยการ กูเกิล ประเทศไทย แถลงผลการวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายใหม่เพิ่มขึ้น 40 ล้านคนจากปี 2562 ทำให้ปัจจุบันทั่วทั้งภูมิภาคนี้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งสิ้น 400 ล้านคน และจากรายงานฯ ได้สนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 สำหรับประเทศไทยยังคงเกาะกระแสการเติบโตที่คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะแตะที่ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 25 ในปี 2568 แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปีนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ผลการวิจัยระบุว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเติบโตขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยจะมีมูลค่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 นับเป็นตลาดที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ได้มีการวิจัยติดตามการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 7 ภาคส่วน และได้ระบุอัตราการเติบโตในประเทศไทยดังต่อไปนี้
ในส่วนของอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด กล่าวคือ อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 81 จากปีที่ผ่านมา มีมูลค่าแตะ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 การขยายตัวของอีคอมเมิร์ซช่วยชดเชยการชะลอตัวของการท่องเที่ยวและการขนส่งออนไลน์ สื่อออนไลน์ (โฆษณา เกม บริการวิดีโอออนดีมานด์ และบริการเพลงออนดีมานด์) ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตขึ้นร้อยละ 20 จากปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และทะลุ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 กล่าวคือ คนไทยใช้เวลาออนไลน์ 3.7 ชั่วโมง (ใช้งานส่วนตัว) ในช่วงก่อนโควิด-19 และพุ่งขึ้นถึง 4.6 ชั่วโมงในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ และปัจจุบันคงที่อยู่ที่ 4.3 ชั่วโมงต่อวัน ผู้ใช้จาก 8 ใน 10 ราย เห็นว่าเทคโนโลยีมีประโยชน์อย่างมากในช่วงโควิด-19 จึงทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของผู้คนอีกต่อไป รายงานฯ ยังระบุว่าในช่วงล็อกดาวน์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ผู้ใช้จํานวนมากเริ่มลองใช้บริการดิจิทัลใหม่โดยร้อยละ 30 ของผู้ใช้บริการดิจิทัลทั้งหมดคือผู้ใช้รายใหม่ และร้อยละ 95 ของพวกเขาเหล่านี้ตั้งใจที่จะใช้ต่อไปหลังช่วงระบาด
การขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ ในประเทศไทยมีมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีลดลงร้อยละ 12 แม้ว่าจะมีการเติบโตของบริการส่งอาหารออนไลน์ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตขึ้นร้อยละ 45 ในปี 2568 การท่องเที่ยวออนไลน์ (ธุรกิจจองโรงแรม ที่พัก และเที่ยวบิน) ในประเทศไทย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีมูลค่าตลาด (Gross Bookings Value) ในปี 2563 อยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีลดลงร้อยละ 47 และคาดว่าจะมีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 รายงานฯ ยังได้ให้ข้อมูลอัปเดตในส่วนของบริการทางการเงินดิจิทัล (การชำระเงิน การโอนเงิน การให้กู้ยืม ประกันภัย และการลงทุน) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยระบุว่าผู้บริโภคและธุรกิจเอสเอ็มอีได้หันมาใช้บริการทางการเงินดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอกเหนือจากบริการให้กู้ยืมแล้ว มูลค่าธุรกรรมรวมการชำระเงินดิจิทัล (GTV) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2563 อยู่ที่ 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากปีที่แล้ว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่ารวมที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 และอีก 2 ภาคส่วนใหม่ที่ได้ทำการวิจัยขึ้นในปีนี้ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงการระบาดของโควิด-19 ได้แก่ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) และเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) ผลการวิจัย แสดงให้เห็นถึงก้าวต่อไปของอนาคตเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและระบบนิเวศขนานใหญ่ในปีนี้ ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีความก้าวหน้าและเติบโตมาสู่จุดที่แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน-สำนักข่าวไทย.