ซีกรุ๊ปหนุนรัฐเข้าเศรษฐกิจดิจิทัล

กรุงเทพฯ 21 ต.ค. ซีกรุ๊ปขอเป็นส่วนช่วยเร่งให้ประเทศไทยมี ‘เศรษฐกิจดิจิทัล’ เกิดเร็วขึ้น


นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea Group (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการ การีน่า (Garena) แอร์เพย์ (Airpay) และช้อปปี้ (Shopee) กล่าวระหว่างการสัมมนาในหัวข้อ “รัฐ-เอกชนพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล” ภายในงานสัมมนา “เศรษฐกิจดิจิทัล พลิกฟื้นประเทศ” จัดโดย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ว่า เศรษฐกิจจิทัล เป็นวาระการประชุมระดับโลก (global agenda) ซึ่งจะเห็นว่าหลายประเทศให้ความสำคัญ และเรื่องนี้อยู่กับเรามานานมากแล้ว แต่อาจไม่ได้มีความเข้าใจดีเท่าที่ควร จนมีการแพร่ระบาดโควิด-19 เข้ามาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อให้เห็นความสำคัญของดิจิทัล ว่ามีความสำคัญมากเท่าใด โดยในแง่ของประเทศไทย เศรษฐกิจดิจิทัลมีการพูดถึงมานานแล้ว และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่นๆ มองว่ามีความเหมือนกันตรงที่คนไทยมีความพร้อม เรื่มมีความรู้ความเข้าใจ และเล็งเห็นความสำคัญ ในการเริ่มประเมินว่าจะนำดิจิทัลเข้ามาพัฒนาในแง่องค์กร หรือในแง่อุตสาหกรรมได้อย่างไรบ้าง ซึ่งเชื่อว่าหลายประเทศก็เห็นตรงนี้เช่นกัน แต่มีความแตกต่างกันในส่วนของความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์) เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ไม่เท่ากัน รวมถึงการสนับสนุนและผลักดันของรัฐบาลก็มีความแตกต่างกัน รวมถึงจุดขายและจุดเด่นของแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และประเทศท่องเที่ยว ทำให้ต้องมองว่า ต้องหาวิธีในการนำเทคโนโลยีเข้ามาผูกกับอุตสาหกรรมที่เป็นจุดเด่นของประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เกิดประโยชน์ในแง่ของภาพรวม ซึ่งทุกประเทศจะแตกต่างกันในจุดนี้

“บริษัทฯ ได้มีการสำรวจความคิดเห็นในกลุ่มเยาวชนและกลุ่มคนรุ่นใหม่ พบว่า ผู้ที่ไม่เคยสั่งอาหารออนไลน์ก็หันมาสั่งอาหารออนไลน์ร้อยละ 35 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ไอแพด หรือแท็ปเล็ต เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่าร้อยละ 40 โดยมีการสำรวจว่า พฤติกรรมดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระยะสั้นหรือไม่ ซึ่งพบว่าจากผลสำรวจกว่าร้อยละ 86 ของผู้ตอบแบบสอบถาม บอกว่าแม้จะผ่านช่วงล็อกดาวน์ หรือพ้นการระบาดโควิด-19 แล้ว แต่พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ หรือการอยู่ในโลกออนไลน์ จะยังคงดำเนินการและใช้งานอยู่ตามปกติ สะท้อนให้เห็นว่าคนบางส่วนมีความพร้อมในการขยับเข้าไปสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลที่พูดถึงกันตอนนี้ เป็นเรื่องที่ต้องมี และทุกคนต้องทำ ไม่ใช่เป็นเรื่องความสวยงามหรือหรูหราอีกต่อไป” นางสาวมณีรัตน์ กล่าว


นางสาวมณีรัตน์ กล่าวว่า การจะไปให้ถึงดิจิทัลเนชั่นได้ มีความท้าทายอยู่ 2 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่ 1.การหาวิธีทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล มีความเท่าเทียมกันในทุกบุคคล ไม่ใช่เพียงคนกลุ่มเมืองเท่านั้น แต่สำหรับกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด หรือในพื้นที่ห่างไกล ต้องหาวิธีทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น ถือเป็นเกมที่มีความท้าทายมาก และ 2.การหาวิธีทำให้คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านั้น สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด มองว่ากลุ่มคนต้องการเห็นความท้ายทายเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงระบบการศึกษา และตัวบุคคล ที่จะต้องร่วมมือกันในการหาวิธี ทำให้ความท้าทายเหล่านี้กลายเป็นจริงให้ได้ ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นแพลตฟอร์มให้บริการสินค้าอินเตอร์เน็ต ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยผลักดันหรือเป็นหนึ่งในตัวเร่งได้ อาทิช้อปปี้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ จะหาวิธีทำให้คนค้าขายสินค้าออฟไลน์ ปรับมาขายสินค้าออนไลน์ได้เพิ่มเติม โดยที่ผ่านมาได้ร่วมงานกับไปรษณีย์ไทย และกระทรวงดีอีเอส ในการจัดทำแคมเปญเพื่อกระตุ้น และช่วยเหลือผู้ขายสินค้า ให้สามารถขายสินค้าได้ในต้นทุนที่ถูกลง ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยขายสินค้าออนไลน์ ก็จะเข้าไปให้องค์ความรู้ และฝึกฝนให้สามารถขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่มีได้

นางสาวมณีรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ สนับสนุนกลุ่มเกษตรกร และผู้ขายในต่างจังหวัดต่างๆ จะหาวิธีในการนำกลุ่มคนเหล่านี้ เข้ามาขายสินค้าในโลกออนไลน์เพิ่มเติม สิ่งที่เร็วที่สุดและทำได้ในวงกว้างมากที่สุดคือ การร่วมมือกับภาครัฐอาทิ การร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ปลูกหรือผลิตเอง มาขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ตั้งเป้าหมายในปี 2563 จะฝึกทักษะเกษตรกรให้ได้ 1,000 ราย และสามารถนำสินค้าต่างๆ มาขายบนช้อปปี้ได้ โดยหากเทียบประเทศไทยกับต่างชาติ อาทิ อินโดนีเซีย ถือเป็นประเทศที่ต้องยกเป็นกรณีศึกษา เพราะมีประชากรในประเทศกว่า 250 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ จึงมีความน่าสนใจอยู่แล้ว แต่หากเทียบกับประเทศที่แข่งขันกับไทยอย่างชัดเจน คือ เวียดนาม แม้จะมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น แต่ยังมีบางด้านที่ล่าช้ากว่าไทย ประเทศไทยจึงยังมีความน่าสนใจอยู่มาก ประกอบกับคนไทยก็มีลักษณะพร้อมเรียนรู้ มีการตอบรับรวดเร็ว ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ องคก์กรส่วนใหญ่จึงอยากเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย

“เมื่อสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีแล้ว จะทำอย่างให้สามารถใช้งานเป็น เรื่องการพัฒนาทักษะดิจิทัล และการสร้างความคุ้นชิน เป็นเรื่องที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาก เพราะต้องการเป็นส่วนช่วยผลักดันให้มีการสร้างบุคคลที่มีทักษะดิจิทัลเกิดขี้นกว่า 10 ล้านคนภายใน 10 ปี ซึ่งในแง่ของการสร้างทักษะดิจิทัล เพื่อสร้างอาชีพ บริษัทฯ ก็ทำงานร่วมงานกับสถาบันการศึกษา 7 แห่งในประเทศไทย เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับนักศึกษาที่จะจบมา สามารถได้เรียนรู้งานจริงตั้งแต่การเรียน เพื่อให้จบมาแล้วมีความพร้อมในการทำงานทันที ซึ่งมองว่าเป็นหลักที่จะช่วยสร้างบุคลากร เพื่อสนับสนุนแรงงานในโลกธุรกิจ” นางสาวมณีรัตน์ กล่าว-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมิเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันประมาณอาทิตยที่แล้ว ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลมาจากล่ามที่แปล ว่าทางสมเด็จฮุนเซนโกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้มีการคุยกันตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุนเซน โกรธเรื่องนี้และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่าตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีแล้วเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลานเหมือนคุยกันกับรัฐมนตรีใน ครม. ทำงานมาตั้งแต่รุ่นของคุณพ่อเรียกอาเรียกลุงเป็นปกติ และได้มีการพูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไรเมื่อคุยกันได้สักพัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจเรื่องของไทม์ไลน์กองทัพว่าเป็นอย่างไร […]

กัมพูชาห้ามผัก-ผลไม้ไทยผ่านช่องจอมวันแรก

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ กัมพูชาตรวจเข้มไม่ให้ผัก-ผลไม้ไทยเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนอย่างหนัก วอนทางการไทยตอบโต้สินค้าจากกัมพูชาที่เข้ามาโกยเงินคนไทยบ้าง เวลา 08.00 น. ได้เวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในฝั่งไทย ในห้วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดที่ลดเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ชาวกัมพูชาต่างเข้าแถวรอข้ามแดน พร้อมกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปรอรับส่งชาวกัมพูชาเที่ยวละ 20 บาท ที่เห็นต่อแถวยาวเหยียด เข้าคิวรอตั้งแต่เมื่อวานคือ รถบรรทุกที่จะเข้าไปซื้อมันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา คนกัมพูชาที่กลับประเทศวันนี้มีทั้งกลุ่มคนที่เข้าๆ ออกๆ ไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย และกลุ่มที่กลับไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึงเห็นสัมภาระจำพวกเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและจำพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่ห้ามนำออกราชอาณาจักรไทย แม้แต่ไฟโซลาร์เซลล์ก็ถูกยึดไว้ เมื่อผ่านจุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดนของกองกำลังสุรนารีได้แล้ว อีกจุดคือด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เวลา 09.00 น. ประตูฝั่งกัมพูชาจึงจะเปิด ซึ่งพบว่ามีการตรวจเข้มตามนโยบายกดดันทางการไทย โดยประกาศชัดว่าจะไม่ให้นำผักผลไม้เข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียว กรรมกรชาวกัมพูชาคนนี้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แวะซื้อเงาะและลองกองที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไม่ทราบว่าทางการกัมพูชาจะเข้มงวดถึงขั้นห้ามนำไปกินในครอบครัว วันนี้ (18 […]

คุมเข้มด่านชายแดน ยอดคนไทยข้ามไปปอยเปตลดฮวบ

สระแก้ว 18 มิ.ย. – วันที่ 2 ของมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดบริเวณด่านชายแดน หลังกองกำลังบูรพาห้ามคนไทยที่เป็นพนักงานบ่อนกาสิโนข้ามไปทำงานฝั่งปอยเปต ทำให้ยอดคนไทยลดฮวบ ปกติแล้วพื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยคนไทยที่มานั่งต่อแถวเพื่อข้ามไปฝั่งปอยเปรต กัมพูชา ซึ่งจะมีทั้งคนที่ข้ามไปทำงานในบ่อนกาสิโนในสถานบันเทิง และคนไทยที่ต้องการไปเล่นการพนัน ยาวล้นไปจนเลยแนวหลังคา พูดง่ายๆ ว่าคนนั่งต่อแถวกันยาวมากกว่า 2 กิโลเมตร แต่หลังจากกองกำลังบูรพามีคำสั่งและให้มีผลตั้งแต่ 08.00 น. เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ในการรักษาความปลอดภัย สูงสุดของคนไทยที่จะข้ามแดนไปยังกัมพูชา คือเพิ่มความเข้มงวดอย่างยิ่งยวด คนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของกาสิโนและสถานบันเทิงทุกชนิดในปอยเปต ออกนอกราชอาณาจักร ทุกจุดผ่านแดนใน จ.สระแก้ว ทำให้ยอดคนไทยที่จะข้ามไปยังฝั่งปอยเปตรถฮวบลงทันที จากเดิมมียอดออกไปวันละ 4,000-5,000 คน เมื่อวานเป็นความบังเอิญที่มีตัวเลขออกไปโดยบอร์ดและพาสปอร์ตเท่ากันคืออย่างละ 196 คน หรือรวม 392 คนเท่านั้น คนที่จะข้ามไปในวันนี้ถ้าสังเกตให้ดีจะมีบางส่วนเป็นคนลาวที่มีรายงานว่าส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เดินทางมาจาก จ.จันทบุรี เนื่องจากที่ด่านจันทบุรีปิดก็ จึงเดินทางมาที่นี่เพื่อออกไปประทับหนังสือเดินทางและประทับกลับเข้ามาใหม่ เพราะจะมีผลให้สามารถอยู่ต่อได้อีก 60 วัน โดยแรงงานพวกนี้เป็นแรงงานที่อยู่ระหว่างรอทำเอ็มโอยูนั่นเอง สำหรับคนไทยที่มีความจำเป็นต้องข้ามไปฝั่งปอยเปตจริงๆ ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับบ่อนหรือกาสิโน อย่างเช่นครอบครัวนี้มีหลักฐานการเช่าอาคารและคนในครอบครัวที่ทำธุรกิจอยู่ในฝั่งปอยเปต เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้ข้ามไปได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนจากคนไทยที่ทำงานในบ่อนกาสิโนที่ระบุว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้และไม่สามารถเดินทางข้ามไปยังฝั่งปอยเปตได้จะต้องได้รับผลกระทบ […]