เชียงใหม่ 25 พ.ย. – นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปีใหม่เป็นมาตรการระยะสั้นที่จะช่วยทำให้บรรยากาศการจับจ่ายของประชาชนดีขึ้นบ้าง หลังจากภาวะการบริโภคซบเซาลงในช่วงที่คนไทยอยู่ในบรรยากาศที่เศร้าโศก แต่ไม่มีผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจมาก เนื่องจากเป็นมาตรการชั่วคราว ประกอบกับเม็ดเงินไม่มาก รวมทั้งกระจายสู่ผู้มีรายได้น้อย 5 ล้านคน โดยแรงกระตุ้นเศรษฐกิจไทยยังมาจากการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ระยะยาวที่จะขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชนโดยคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2560 จะเติบโตร้อยละ 3.3 แต่จะไม่ถึงร้อยละ 5 ตามที่รัฐบาลคาดหวัง เนื่องจากเผชิญปัจจัยลบจากปัญหาเชิงโครงสร้างภาคการส่งออก ตลาดเงินผันผวน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ รวมถึงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีผลต่อการส่งออกจากมาตรการกีดกันทางการค้าและการลงทุน
นอกจากนี้ ทิศทางตลาดเงินหลังการเลือกตั้งสหรัฐยังคงมีความผันผวนสูงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเดือนธันวาคมนี้ ร้อยละ 0.25 และปรับขึ้นอีกอย่างน้อยร้อยละ 0.50 ในปี 2560 ส่งผลให้มีเงินไหลออกจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รวมทั้งไทย ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่ารวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น จะมีผลให้เงินบาทอ่อนค่าในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้านี้ หรือประมาณ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และจะเริ่มกลับมาแข็งค่าแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ตามความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีมากขึ้น คาดว่าแข็งค่าสุดที่ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และสิ้นปี 2560 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในโยบายของไทยคาดว่าจะคงอยู่ที่ร้อยละ 1.50 จนถึงสิ้นปี 2560. – สำนักข่าวไทย