“พล.อ.ประวิตร” เร่งขับเคลื่อนแผนสิ่งแวดล้อม-ลดก๊าซเรือนกระจก

กรมส่งเสริมฯ 5 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” เร่งขับเคลื่อนแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดก๊าซเรือนกระจกดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อประชาชน


เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 2/2563 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่รองประธานกรรมการคนที่ 1 ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่รองประธานกรรมการคนที่ 2 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเกียรติชาติ ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ทำหน้าที่กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ซึ่งมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณา ประเด็นที่สำคัญ จำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ (ร่าง) แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558 – 2593 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563) โดยมีแนวทาง 3 ด้าน ได้แก่ (1) การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (2) การลดก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการเติบโตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ และ (3) การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​(ร่าง) รายงานความก้าวหน้ารายสองปี ฉบับที่ 3 (Draft Third Biennial Update Report) และให้จัดส่งรายงานดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ต่อไป โดยผลการลดก๊าซเรือนกระจกจากมาตรการภาคพลังงาน ปี พ.ศ. 2561 จำนวนทั้งสิ้น 57.84 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นร้อยละ 15.76 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ NAMAs เอกสารถ้อยแถลงเพื่อการดำเนินงาน (Statement of Undertaking : SoU) ภายใต้ข้อริเริ่ม Nitric Acid Climate Action Group (NACAG) Initiative และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ เที่ประชุมได้พิจารณาให้ รมว.ทส. หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนประเทศไทย ลงนามในเอกสารถ้อยแถลงเพื่อการดำเนินงาน (Statement of Undertaking: SoU) ดังกล่าว และพิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจการจัดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) เพื่อเตรียมการจัดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ริเริ่มให้มีการจัดประชุมขึ้นในปี พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจ ความตระหนักรู้ถึงเหตุผลและความสำคัญของกรอบอนุสัญญา UNFCCC และความตกลงปารีส


ในตอนท้าย พลเอกประวิตร ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ ในการประชุม และขอให้ฝ่ายเลขาฯ นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการไปสรุป และจัดทำรายงานการประชุมต่อไป สำหรับมติคณะกรรมการขอให้มีการติดตามและรายงานผลการดำเนินงานให้ที่ประชุมทราบอย่างสม่ำเสมอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย