พช.ทำเอ็มโอยูขับเคลื่อนบัณฑิตอาสาต้นแบบเขต EEC 3 จังหวัด

ชลบุรี 22 ก.ย.- พช. ผนึกกำลัง สกพอ. และ ม.บูรพา บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ขับเคลื่อนโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ (EEC) 3 จังหวัด โซ่ข้อกลางสื่อสารความเข้าใจหนุนบัณฑิตจบใหม่ใช้ความรู้พัฒนาบ้านเกิด


วันที่ 22 กันยายน 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และผู้ช่วยศาสตราจารย์ณยศ คุรุกิจโกศล รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกิจการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กรมการพัฒนาชุมชน และมหาวิทยาลัยบูรพา ตามโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ

โดยมีนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ที่ปรึกษาพิเศษด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นายร่องกี้ พลเยี่ยม ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก บัณฑิตอาสาโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องศรีราชา วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี


กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และมหาวิทยาลัยบูรพา ที่จะดำเนินงานในพื้นที่เขต เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบจะเป็นโครงการที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของบัณฑิตจบใหม่ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างดี อีกทั้งจะเป็นโครงการที่ช่วยให้บัณฑิตจบใหม่ซึ่งเป็นคนพื้นที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถของตนเองในการพัฒนา ถิ่นกำเนิด เป็นกลไกสำคัญหรือเรียกนัยหนึ่งว่าเป็นโซ่ข้อกลางที่จะช่วยสื่อสารสร้างการรับรู้นโยบายการขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกไปสู่ประชาชนในระดับพื้นที่ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่และจัดทำข้อเสนอเพื่อการพัฒนาเสนอให้ สกพอ. ได้นำไปใช้ประกอบการกำหนดแนวทางการพัฒนาและสนับสนุนชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ร่วมกันสนับสนุนงานทางวิชาการ และดำเนินการฝึกอบรมบัณฑิตศึกษาให้มีทักษะสามารถทำงานสร้างความร่วมมือในพื้นที่ ตลอดจนสนับสนุนการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และข้อเสนอความต้องการของชุมชน

ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจาก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และมหาวิทยาลัยบูรพา ที่จะร่วมกันสร้างความรับรู้ความเข้าใจของนโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ชุมชน โดยมีสิ่งสำคัญ 3 ประเด็นดังนี้

1.ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ยังรู้สึกกังวลใจในการมีส่วนร่วมในชุมชน ในการพัฒนาการบริการภาครัฐ โรงเรียน โรงพยาบาล ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ฉะนั้นโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบนี้ จะเป็นโอกาสที่ทำให้ ภาครัฐ ส่วนราชการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และภาคประชาชน มีโอกาสสื่อสารภารกิจงานภาครัฐกันอย่างใกล้ชิด ผ่านกลไกโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบเพื่อเป็นโซ่ข้อกลางสร้างความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม


2.เป็นฐานข้อมูลงานวิจัยในการดำเนินการโครงการต่างๆที่ดีของประเทศชาติ ซึ่งโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบจะก่อให้เกิดฐานข้อมูลเชิงลึก ซึ่งน้องๆบัณฑิตอาสาจะเป็นส่วนสำคัญในการรับใช้สังคมในเชิงวิชาการเพิ่มมากขึ้น โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้วางแผนร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ศึกษาแนวทางให้มีช่องทางพิเศษสำหรับบัณฑิตอาสาโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ เมื่อมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสม ให้สามารถบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือน สังกัดกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้บัณฑิตอาสาเหล่านี้ เป็นการนำเอาความรู้และประสบการณ์มาปฏิบัติงานในพื้นที่จริงให้ก่อเกิดประโยชน์ในชุมชน

3.โครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ เป็นการเปิดโอกาสให้บัณฑิตอาสา เข้ามามีส่วนร่วมกับ ภาคราชการ ภาควิชาการ ภาคประชาชนและภาคเอกชน ซึ่งถือว่าเข้ามามีบทบาทมวลชนสัมพันธ์ในพื้นที่ได้สื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจในพื้นที่ชุมชน ซึ่งจะทำให้สังคมตลอดจนผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ มีความเข้าใจภารกิจงานนโยบายของภาครัฐและสามารถขับเคลื่อนงานในการพัฒนาพื้นที่ชุมชนร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

ทางด้าน ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวถึงที่มาของโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบว่า “ภาครัฐมีนโยบายมุ่งเน้นการขยายการลงทุนสู่พื้นที่และชุมชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ดังนั้นจึงได้ผลักดันโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ ร่วมกับ สกพอ. กรมการพัฒนาชุมชน และมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อให้บัณฑิตใหม่ ได้มีโอกาสทำงานในพื้นที่อย่างเต็มความสามารถ เป็นกลไกในการสำรวจผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระจายความรู้ด้วยวิทยาการที่ทันสมัย ตลอดจนร่วมวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลสู่การพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น ที่ดีและยั่งยืน ดังนั้น บัณฑิตอาสาที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้จึงถือเป็นบุคลากรต้นแบบของคนทั้งประเทศ ในพื้นที่ต้นแบบ ซึ่งหากการดำเนินการตามโครงการนี้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดี จะนำไปสู่การขยายผลไปในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศต่อไป”

จากนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณยศ คุรุกิจโกศล ผู้รักษาการแทนรองอธิบดีฝ่ายกิจการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า “ความท้าทายของโครงการนี้ คือประเด็นของการพัฒนาเปลี่ยนแปลงทางสังคม ความเป็นอยู่การใช้ชีวิตของประชาชน โดย ความร่วมมือในวันนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่ EEC จะมีการสร้างกลไก กระบวนการ ที่นำคุณภาพชีวิตที่ดีมาสู่ประชาชน อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแล ดังนั้น บัณฑิตของมหาวิทยาลัยบูรพา ที่เข้าร่วมโครงการนี้ จึงมีภารกิจสำคัญในบทบาทของฝ่ายพัฒนา ต้องลงพื้นที่ไปรับฟัง เก็บข้อมูลทุกมิติ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นกลับมาวิเคราะห์ ประมวลผล และบูรณาการสังเคราะห์สู่การพัฒนาสังคม ชุมชน ความร่วมมือของ 3 ฝ่ายในวันนี้ จึงเป็นนิมิตหมายอันดีอย่างยิ่ง โดยจะเห็นได้จาก กรมการพัฒนาชุมชน ที่มีภารกิจดูแล พัฒนาคุณภาพชีวิตใกล้ชิดพื้นที่โดยตรง ซึ่งโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องในการประสานนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกร่วมกับทุกฝ่าย ในส่วนของมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะร่วมผลักดันในเชิงวิชาการด้วยการนำเทคนิควิธี องค์ความรู้ วิทยาการปรับประยุกต์สู่การปฏิบัติจริง โดยผ่านบัณฑิตของมหาวิทยาลัยบูรพาเป็นกลไกหลัก เพื่อนำมาซึ่งความผาสุก ยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป”

ในการนี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ โดยการฝึกอบรมบัณฑิตอาสาที่ผ่านการคัดเลือกของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทั้ง ๓ จังหวัด ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่ และให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอ กำกับดูแล และสนับสนุนการปฏิบัติงานของบัณฑิตอาสาในการปฏิบัติงานโดยมีพัฒนากรผู้ประสานงานประจำตำบลเป็นพี่เลี้ยง/ที่ปรึกษา สนับสนุนข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชนแก่บัณฑิตอาสา ให้ความร่วมมือกับ สกพอ. และมหาวิทยาลัยบูรพาในการขับเคลื่อนโครงการในภาพรวมตามกรอบความร่วมมือ ที่ได้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ อธิบดี พช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดบริการชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – กรมการขนส่งทางบก ครบรอบ 84 ปี เปิดตัวบริการรับชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สะดวกสบาย ทำได้ทุกที่ พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ครบรอบ 84 ปี “ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อการขนส่งที่ปลอดภัย สู่อนาคตที่ยั่งยืน” และร่วมเปิดตัวบริการรับชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบก และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการชำระภาษีรถประจำปีให้ได้รับการบริการที่สะดวก สบาย ลดเวลาการเดินทาง เพิ่มช่องทางในการชำระภาษีรถผ่านระบบออนไลน์ สามารถชำระภาษีรถได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งพร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 84 ปี วันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ในนามของกระทรวงคมนาคม ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณผู้บริหารรวมไปถึงบุคลากรของกรมการขนส่งทางบกทุกท่าน ที่มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจสำคัญและมียุทธศาสตร์ขับเคลื่อนพัฒนาภารกิจที่ต่อเนื่องชัดเจน ตั้งแต่ก่อตั้งหน่วยงานจนถึงปัจจุบันในปีที่ 84 เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนและประเทศชาติโดยรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม มีความมุ่งมั่นในการยกระดับหน่วยงานภาครัฐสู่เป้าหมายการปฏิบัติภารกิจที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคปัจจุบันซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จึงมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ยกระดับพัฒนาในด้านต่าง ๆ โดยการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เพื่อกำกับ […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“หมอบี” ยันบริสุทธิ์หลังถูกเค้นสอบ นานกว่า 7 ชม.

กทม. 8 ส.ค. – ตำรวจกองปราบเค้นสอบ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” นาน 7 ชม. เจ้าตัวยืนยันบริสุทธิ์ปมเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ มอบหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว วานนี้ (7 ส.ค.) นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ดอดเข้าพบตำรวจกองปราบฯ หลังถูกวิจารณ์หนัก ปมเปิดรับบริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ โดยหมอบี เข้าให้ปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมง นำเอกสารหลักฐานต่างๆ จำนวนหลายแฟ้มมาแสดงให้พนักงานสอบสวนดู โดยทางตำรวจได้ถ่ายสำเนาและให้เซ็นรับรอง พร้อมตอบคำถามประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรับเงินบริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุ มานานต่อเนื่องหลายปี ระหว่างการสอบปากคำ เจ้าตัว มีการขอตัวเข้าห้องน้ำ 3-4 ครั้ง และหยุดพักรับประทานอาหารตอนช่วงเวลา 21.30 น. ก่อนจะสอบปากคำต่อจนถึงเที่ยงคืนถึงจะเสร็จ โดยหมอบี ต้องเซ็นคำให้ปากคำทุกแผ่นจำนวนหลายสิบหน้ากระดาษ ระหว่างรอเซ็นคำให้การและเอกสารต่างๆ เจ้าตัว ก็เอนศีรษะนอนพิงพนักเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้าบ้าง สลับลุกยืนเดินไปรอบๆ บ้าง หลังจากนั้นหมอบี กับพวก 4 คน เดินออกจากห้องพนักงานสอบสวน บก.ป. […]

ผบช.ก.สั่งสอบญาติพระวัดพระบาทน้ำพุ ร่ำรวยผิดปกติ

7 ส.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการชุดสืบสวนตรวจสอบความผิดปกติของญาติพระในวัดพระบาทน้ำพุ ร่ำรวยผิดปกติ รวมทั้งคดีของหมอบี นำเงินวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีของหมอบี หมอดูชื่อดัง ที่ถูกกล่าวหาว่า เปิดบัญชีในนามของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี แต่กลับนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือส่งเงินให้วัดไม่ครบทั้งหมดว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ตรวจสอบข้อร้องเรียนอย่างละเอียดแล้ว ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งฝั่งของผู้ร้องและผู้เกี่ยวข้องกับเงินบริจาค ไปมากกว่า 10 ปากแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบคือ กรณีการทุจริตเงินบริจาคที่จะให้กับวัด และการใช้จ่ายเงินบริจาค ภายในวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าวัดมีลักษณะพฤติการณ์ใช้นอมินีไปกว้านซื้อที่ดินและสนามกีฬาภายในจังหวัดลพบุรี โดยใช้ชื่อของมูลนิธิ เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด โดยก่อนหน้านี้มีประชาชนรายหนึ่งได้โทรศัพท์แจ้งว่าญาติของพระในวัด ร่ำรวยผิดปกติ โดยไม่ทราบว่านำทรัพย์สินต่างๆ มาจากส่วนใด ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีนี้แล้วเช่นกัน.-415-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]