บอร์ด กสทช.รอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดก่อนออกประกาศเรียงช่องทีวี

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – บอร์ด กสทช.ให้รอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเป็นแนวทางทำประกาศเรียงช่องทีวีดิจิทัล


พันเอกนที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมกรรมการ กสทช. เรื่องการจัดเรียงช่องโทรทัศน์ว่า บอร์ด กสทช.มีความเห็นให้ยึดตามความเห็นที่อนุกรรมการกลั่นกรองด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทำความเห็นเสนอไว้ คือ ในระหว่างที่รอคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดให้สำนักงานเตรียมการจัดการร่างประกาศ กสทช. ว่าด้วยเรื่องการจัดเรียงช่องทีวี เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะแล้วนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณา โดยเมื่อมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดก่อน เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว กสทช.จะนำผลคำพิพากษานั้นมาศึกษาเพื่อพิจารณาประกอบในขั้นตอนสุดท้าย ร่างประกาศฉบับที่สำนักงาน กสทช.เตรียมไว้ กำหนดให้ช่อง 1-10 และช่อง 37 ขึ้นไปให้แพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยร่างจะนำไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ทั้งนี้ กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจะเริ่มดำเนินการทันที โดยสำนักงานจะนำร่างประกาศขึ้นไปเผยแพร่บนเว็บไซต์จากนั้นจะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ให้ความคิดเห็น

“ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี รวมถึงทุกฝ่ายสามารถมาแสดงความคิดเห็นได้ โดยถ้าไม่เห็นด้วยก็ให้มาบอกว่าไม่เห็นด้วย เพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย โดยขอให้มาให้เหตุผลประกอบสำนักงานฯ จะรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วยเหตุผล ประกาศฉบับนี้จะละเอียดอ่อนกว่าประกาศฉบับเดิม เพราะประกาศฉบับเดิมอยู่ในระหว่างการรอฟังความเห็นของศาลดังนั้นประกาศฉบับนี้จึงต้องทำอย่างรอบคอบ “


พันเอกนที กล่าวอีกว่า เดิมร่างประกาศฯ กำหนดให้ทีวีดิจิทัลช่องที่ 1-36 ของทุกแพลตฟอร์มเป็นของทีวีดิจิทัล แต่ประกาศฉบับนี้เป็นการประกาศจัดเรียงช่อง 11-36 เป็นช่องทีวีดิจิทัล ส่วนช่อง 1-10 และ ช่อง 37 เป็นต้นไปเป็นช่องที่ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ กสทช.มีความพยายามให้เกิดความเสียหายกับประชาชนน้อยที่สุด การไม่มีประกาศเท่ากับไม่มีกติกา ซึ่งจะทำให้ประชาชนเสียหายได้ ดังนั้นการให้มีคำวินิจฉัยของศาลซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กรเพื่อเป็นแนวทางที่เหมาะสม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย