fbpx

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุปะทะยะรังตลอด 3 วัน

ปัตตานี 17 ส.ค.- กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุปะทะที่ยะรัง ปัตตานี ตลอด 3 วัน ยืนยันเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างรัดกุมและใช้หลักการเจรจา แต่ไม่เป็นผลเกิดปะทะกันเป็นระลอก เจ้าหน้าที่เจ็บ 3


พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงกรณีเหตุปะทะเมื่อวันที่ 14-16 สิงหาคม 2563 ในพื้นที่หมู่ 2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานีว่า ขณะนั้นเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบจังหวัดปัตตานีร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานีได้เปิดแผนเชิงรุกเข้าตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยจะมีกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามาหลบซ่อนตัวแล้วเกิดเหตุปะทะกันขึ้น ซึ่งสภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นทุ่งนาและป่าละเมาะ ทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความยากลำบาก ฉะนั้น ต้องทำทุกอย่างด้วยความละเอียดรอบคอบ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 เวลา 07.00 น เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังล้อมปิดเส้นทางเข้าออก กระทั่งเวลา 08.45 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุเริ่มรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อม และเวลา 09.00 น. เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ ร.ต. สุทธิพร สุภาการ อายุ 33 ปี สังกัดชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณต้นขาขวา นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จ.ส.ต.อนุวัฒน์ สวนโศกเชือก อายุ 31 ปี สังกัดชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณข้อเท้าซ้าย นำส่งโรงพยาบาลยะรัง ส.ท. แสนชัย ชาติชำนาญ อายุ 27 ปี สังกัดชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณต้นขาซ้ายและข้อเท้าขวา นำส่งโรงพยาบาลยะรัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ถอยกำลังออกมา เนื่องจากพิสูจน์ทราบว่าภายในพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยง และได้เริ่มดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนด้วยการปิดล้อม พร้อมเชิญผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และผู้นำหมู่บ้าน เข้ามาเกลี้ยกล่อม แต่การเกลี้ยกล่อมไม่เป็นผล อีกฝ่ายยังคงยิงออกมาเป็นระยะ จนเวลาล่วงเลยไปถึงเวลา 16.30 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่ยังมีการยิงตอบโต้กัน อีกฝ่ายเสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ก่อเหตุระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา


เช้าวันที่ 15 ส.ค. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอีกครั้งด้วยการเชิญผู้นำศาสนาผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเข้ามาเจราจา แต่ก็ยังไม่เป็นผล กลุ่มก่อเหตุยังคงใช้ความรุนแรงจนเกิดการปะทะเป็นระลอก ทำให้ฝ่ายตรงข้ามคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 คน บาดเจ็บและ หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณป่าละเมาะ แต่ยังคงยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด

เช้าวันที่ 16 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำท้องถิ่นผู้นำศาสนาผู้นำหมู่บ้านเข้ามาเกลี้ยกล่อม ไม่เป็นผลอีก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องปฏิบัติการคืบหน้าปิดล้อม และมีปะทะกัน ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 5 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนของกลาง 10 กระบอก ประกอบด้วย ปืนเล็กยาว M 16 จำนวน 2 กระบอก ปืนเล็กยาว AK-47 จำนวน 1 กระบอก ปืนเล็กยาว AK-102 จำนวน 1 กระบอก ปืนเล็กยาว HK-33 จำนวน 1 กระบอก ปืนพกขนาด 11 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอก รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เป้สนาม 8 ใบ อุปกรณ์ดำรงชีพหลายรายการ

เหตุการณ์ดังกล่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความเสียใจไปยังญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยายามบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก แต่กลุ่มก่อเหตุเลือกจะใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ และ พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้ปรับแผนบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายด้วยความรอบคอบระมัดระวังจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ ยังให้ชุดมวลชนเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และสำรวจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือเยียวยา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง