ด่วน..สั่ง กฟผ.สำรวจความเห็นคน”กระบี่” เอาไหมโรงไฟฟ้าถ่านหิน

 


 

กรุงเทพฯ  28 พ.ย. –พล.อ.อนันตพร  กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สั่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่เอาหรือไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ยอมรับประมูล”บงกช-อาราวัณ”เสร็จปี 61 เตรียมแผนรองรับทั้งเร่งนำเข้าแอลเอ็นจี-แอลพีจี โดยจะนำเสนอ กพช.ขอนำเข้าสัญญาระยะยาวเพิ่มนำเข้าจาก ปิโตรนาส 1.2 ล้านตัน/ปี


พล.อ.อนันตพร   กล่าวว่า ได้สั่งการ กฟผ. สำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่เอาหรือไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน อย่างแท้จริงว่ามีความต้องการหรือไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ หรือไม่  เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน  โดยขอให้เป็นความคิดเห็นเฉพาะคนในพื้นที่จังหวัดกระบี่เท่านั้น  และขอให้สรุปอย่างรวดเร็วที่สุด แม้ว่าขณะนี้ทางจังหวัดกระบี่จะนำส่งรายชื่อประชาชนผู้สนับสนุนกว่า 15,000  รายชื่อแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ทางกระทรวงต้องการความคิดเห็นเพิ่ม เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน  ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่ นายกรัฐมนตรีชะลอโครงการเพราะต้องการเห็นความชัดเจนจากประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าหากมีโรงไฟ้ฟ้าถ่านหินกระบี่เกิดขึ้นจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในภาคใต้  เพราะปัจจุบันกำลังการผลิตในพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการต้องส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปให้ภาคใต้  ขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นในภาคใต้ร้อยละ 5-6  ต่อปี  ซึ่งการส่งไฟฟ้าระยะไกลจะมีความเสี่ยงเรื่องไฟฟ้าสูญเสีย  มีความเสี่ยงไฟตกไฟดับ หากโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่เกิดขึ้นก็ต้องสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติทดแทน  ขณะที่ก๊าซฯ ในประเทศมีปริมาณลดลงต้องพึ่งพานำเข้าจากต่างประเทศรูปแบบก๊าซธรรมชาติเหลว  (แอลเอ็นจี)  ต้นทุนสูงกว่า

“ให้ กฟผ.สำรวจความต้องการคนในพื้นที่ว่าต้องการอะไรกันแน่ เพราะการมีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่สร้างงาน สร้างรายได้ และยังมีเงินกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าอีกประมาณ  120  ล้านบาทต่อปี  ตลอดเวลา 30 ปีมีเงินรวมถึง  3,600  ล้านบาท  และที่สำคัญเทคโนโลยีถ่านหินที่จะนำมาใช้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งสะอาดมาก ๆ มีผลกระทบน้อยที่สุด”  รมว.พลังงาน  กล่าว


รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า  ส่วนเรื่องการประมูลพื้นที่สัมปทานปิโตรเลียมแหล่งบงกชและเอราวัณที่ล่าช้ากว่าแผน เนื่องจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและภาษีปิโตรเลียมมีการท้วงติงมานั้น  ยอมรับว่าการเปิดประมูลไม่สามารถเปิดได้ทันภายในเดือนมีนาคม 2560  แต่จะพยายามเปิดประมูลให้ได้ภายในปี 2560  และทุกอย่างจะประมูลเสร็จสิ้นได้รายชื่อผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการภายในปี 2561  แม้ล่าช้ากว่าแผน แต่ต้องยอมรับ  โดยทางกระทรวงได้มีการหารือกับภาคเอกชนในการดูแลการผลิต  โดยยอมรับว่าหากเป็นรายเดิมการคงกำลังการผลิตให้ลดน้อยลงที่สุดจะมีผลกระทบน้อยกว่าการได้รายใหม่  แต่หากได้รายใหม่กระทรวงจะดูแลในการดำเนินการเกิดผลกระทบต่อการผลิตน้อยที่สุด

รมว.พลังงาน  กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 2 ธันวาคมนี้ นอกจากจะมีการหารือเรื่องการประกาศราคาแอลพีจี ประจำเดือนธันวาคมแล้ว  ยังจะมีการหารือเรื่องแนวโน้มการเปิดเสรีการนำเข้าแอลพีจี และสัญญาการซื้อขายแอลเอ็นจีระยะยาวของ บมจ.ปตท.และปิโตรนาสแห่งมาเลเซีย  โดยภาพรวมจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการประมูลแหล่งปิโตรเลียมล่าช้า  ซึ่งยอมรับว่าจะกระทบทั้งการนำเข้าแอลเอ็นจีและการผลิตแอลพีจีในประเทศที่ต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.ปตท.ได้มีการเจรจาจะนำเข้าแอลเอ็นจีจากปิโตรนาส 1.2  ล้านตันต่อปี  นับเป็นบริษัทที่ 4  ที่ ปตท.จะมีการนำเข้าสัญญาระยะยาวต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลเห็นชอบให้นำเข้าจากกาตาร์  2  ล้านตัน  เชลล์และบีพีรายละ 1  ล้านตัน  โดยการนำเข้าจากปิโตรนาสนี้เดิมที่ ปตท.เสนอนำเข้า 2  ล้านตันต่อปี  เบื้องต้นกระทรวงเห็นว่า 1.2  ล้านตันเป็นสัญญาระยะยาวที่เหมาะสม  ที่เหลือจะมีการเจรจาลักษณะสัญญาตลาดจร(SPOT)จากปริมาณความสามารถการนำเข้าแอลเอ็นจีสถานีรับจ่ายก๊าซแหล่งที่  1  รวม  11.5  ล้านตันต่อปี  โดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) 8 ธ.ค.นี้

ส่วนการนำเข้าแอลพีจีเสรีขณะนี้จะดำเนินการรองรับกรณีการเปิดประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณล่าช้าอย่างต่ำจะทำให้แอลพีจีหายไปจากระบบร้อยละ 20  ของกำลังการผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ  ปัจจุบันความต้องการใช้แอลพีจีของประเทศประมาณร้อยละ 50 หรือ 320,000  ตันต่อเดือนจะมาจากโรงแยกก๊าซอีกประมาณ 150,000  ตัน จะมาจากโรงกลั่นน้ำมัน ที่เหลือประมาณ 30,000-40,000  ตันต่อเดือนมาจากนำเข้าแอลพีจี  โดยตามแผนคาดว่าการผลิตจากโรงแยกก๊าซจะลดลงอย่างหนักตั้งแต่ปี  2563 ก๊าซแอลพีจีจะหายไปอย่างต่ำ 60,000  ตันต่อเดือน  ดังนั้น  คาดว่าไทยจะนำเข้าแอลพีจีช่วงดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 90,000 ตันต่อเดือน   โดยการเปิดเสรีขณะนี้วางแผนไว้หลายรูปแบบ เ ช่น  การให้เอกชนนำเข้าอย่างเสรีสามารถเลือกใช้คลังนำเข้า ณ จุดใดก็ได้ หรือกำหนดโควตานำเข้า และรวมถึงการเปิดเสรีราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันจากเดิมเป็นสูตรราคาตะวันออกกลางลดลง 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน  (cp-20 ดอลลาร์) อาจเป็นราคาเสรี  ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้โรงกลั่นฯ ผลิตแอลพีจีเข้ามาในระบบมากขึ้น  .-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน