สธ.แจง “เที่ยวปันสุข” แพ็กเกจกำลังใจ อสม.-อสส.-รพ.สต.

สธ.23 ก.ค.-สธ.แจงแนวทางการดำเนินการโครงการเที่ยวปันสุข แพ็กเกจกำลังใจ อสม.-อสส.-เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ตอบแทนการทำงานเชิงรุกต้านโควิด-19 และส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ 



นายสาธิต  ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.)   กล่าวว่า วานนี้ (22ก.ค.) ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชนทุกจังหวัด ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการเที่ยวปันสุข แพ็กเกจกำลังใจ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ


นายสาธิต กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตามโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว จัดทำโครงการเที่ยวปันสุข แพ็คเกจกำลังใจ เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นการตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน(อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.)และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทีมแพทย์ พยาบาล  ทำงานเชิงรุกควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา 


อีกทั้งเป็นการกระตุ้นการเดินทางจากภาครัฐโดยตรง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเยียวยาผู้ประกอบการและผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบให้สามารถ ประคองธุรกิจและประกอบอาชีพได้ โดยสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน 2 วัน 1 คืน  คนละ 2,000 บาท โดยมีเป้าหมายจำนวน 1.2 ล้านคน เดินทางโดยใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวในประเทศที่มีการจดทะเบียน ถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

“รัฐบาลต้องการตอบแทน อสม./อสส.และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่ทำงานหนักในสถานการณ์ที่ผ่านมาจึงอยากให้ได้ใช้สิทธิและขอความร่วมมือ ถ้าไม่ไป หรือไปไม่ได้ ไม่ต้องลงทะเบียน ค่อยๆทยอยไปเที่ยว มีเวลาถึง 31 ตุลาคม 2563 แนะนำให้เลือกเดินทางวันธรรมดา ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้บริการบริษัททัวร์นำเที่ยวภายในจังหวัดก่อน  และเดินทางเป็นหมู่คณะ ไม่สามารถให้บุคคลอื่นใช้สิทธิแทนได้ ขอให้ทุกท่านเที่ยวอย่างมีความสุข ช่วยกันไม่ให้เงินรั่วไหลออกนอกประเทศ” นายสาธิตกล่าว

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพี่น้อง อสม.อสส.และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ให้ความร่วมมือปฏิบัติ งานดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อย่างเข้มแข็ง ลงพื้นที่ให้ความรู้ เฝ้าระวังคัดกรองกลุ่มเสี่ยง เยี่ยมติดตามกลุ่มเสี่ยงที่บ้าน รวมถึงปฏิบัติงาน ณ จุดคัดกรองชุมชน  เคาะประตูบ้านกว่า 14,027,310 หลังคาเรือน โครงการนี้จึงตั้งใจตอบแทนทุกท่านที่ได้เสียสละปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ อสม.อสส.และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ที่สนใจลงทะเบียนและเลือกรายการนำเที่ยวได้ที่เว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย  และติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กดรับสิทธิ “โครงการกำลังใจ” ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 – วันที่ 29 ตุลาคม 2563 (เริ่มเดินทางได้ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2563) .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน