มะนิลา 27 ก.ย.- ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนบัวลอย (Bualoi) ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์วานนี้เพิ่มขึ้นจาก 4 คน เป็น 10 คนแล้วในวันนี้ คาดว่าพายุจะทวีกำลังขึ้นเป็นไต้ฝุ่นอีกครั้งในขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม
ฟิลิปปินส์สั่งงดการเรียนการสอนและการทำงานในหลายพื้นที่ รวมถึงเขตมหานครมะนิลา สั่งอพยพประชาชนจำนวนมากไปยังศูนย์พักพิง ก่อนที่พายุโซนร้อนบัวลอยขึ้นฝั่งจังหวัดซีลางังซามาร์หรือซามาร์ตะวันออก ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ แล้วเคลื่อนตัวข้ามไปยังเกาะมัสบาเตและพัดทั่วเขตบีโคล ทางตอนใต้ของเกาะลูซอนที่อยู่ทางเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตมีทั้งต้นไม้ล้มทับ จมน้ำ กำแพงพังถล่ม น้ำท่วมฉับพลันและคลื่นพายุซัดฝั่งหรือสตอร์มเซิร์จ ผู้ว่าราชการจังหวัดมัสบาเตร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง เนื่องจากต้องเร่งรื้อซากความเสียหาย ซ่อมแซมการจ่ายไฟฟ้า และเปิดท่าเรือเพื่อเปิดทางให้แก่การลำเลียงความช่วยเหลือ
พายุลูกนี้ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ตามหลังไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดของปีนี้ ขึ้นฝั่งทางตอนเหนือเมื่อวันที่ 21 กันยายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ก่อนเคลื่อนตัวไปสร้างความเสียหายให้แก่ไต้หวัน คร่าชีวิตอย่างน้อย 15 คน

พายุบัวลอยซึ่งมีชื่อในภาษาตากาล็อกว่า โอปอง (Opong) มีความเร็วลมสูงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วลมกระโชกเพิ่มขึ้นเป็น 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังกลับขึ้นเป็นไต้ฝุ่นอีกครั้งในขณะที่เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามแจ้งว่า พายุที่เคลื่อนตัวเร็วนี้จะขึ้นฝั่งทางตอนเหนือและตอนกลางของเวียดนามในวันจันทร์ ทำให้เกิดฝนตกหนักตั้งตาวันที่ 28 จนถึง 30 กันยายน สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเตือนว่า ฝนตกหนักจะทำให้เกิดน้ำท่วมร้ายแรงตามพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงพื้นที่เขตเมืองและเขตอุตสาหกรรม หลายพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึง 150 มิลลิมเตรในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า.-814.-สำนักข่าวไทย