กรุงเทพฯ 29 พ.ย.-สสค.เผยดัชนีการพัฒนาทุนมนุษย์ ปี 2559 ไทยครองอันดับ 48 จาก 130 ประเทศทั่วโลก สะท้อนเด็กไทยขาดทักษะเเรงงาน
นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานการประชุมเชิงวิชาการ “การยกระดับกำลังคนของไทยตามยุทธศาสตร์ไทยเเลนด์4.0″ ที่สำนักงานส่งเสริมสังคมเเห่งการเรียนรู้เเละคุณภาพเยาวชน (สสค.) จัดขึ้น เพื่อระดมความคิดการผลิตเยาวชนก้าวสู่ยุคไทยเเลนด์ 4.0 โดยในที่ประชุม มีการนำเสนอผลการจัดอันดับดัชนีการพัฒนาทุนมนุษย์ปี2559 จากเวทีเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเทศไทยติดอันดับ 48 จาก 130 ประเทศ สะท้อนว่าเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน เเรงงานไทยไม่สามารถเเข่งขันได้ดีเท่ากับมาเลเซีย จีนเเละสิงคโปร์ หากเทียบรายได้ต่อหัว ไทยติดอยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจยุค2.0-3.0
เเนวทางการพัฒนากำลังคนเพื่อก้าวสู่ไทยเเลนด์4.0 ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้คือต้องมีการสร้างเเรงงานรุ่นใหม่ในระดับอุดมศึกษาเพื่อป้อนตลาดเเรงงาน 3.32 ล้านคน เเบ่งเป็นระดับอาชีวศึกษา 1.99 ล้านคนเเละมหาวิทยาลัย 1.33 ล้านคน เเละต้องเพิ่มเเรงงานที่มีทักษะอีกกว่า 13 ล้านคน
นอกจากนี้ต้องยกระดับทักษะเเรงงานด้วยโมเดล 3 ประสาน คือการทำงานร่วมกันของกรมพัฒนาฝีมือเเรงงาน อาชีวศึกษาเเละมหาวิทยาลัย โดยมีเอกชนเข้ามาเสริม เพื่อพัฒนาเเรงงานที่มีทักษะให้ได้ 2.56 ล้านคนต่อปี นำพาประเทศก้าวออกจากเศรษฐกิจ 2.0 ไปสู่ไทยเเลนด์ 4.0ได้
นายประชาคม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาคนนำพาประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยการปฏิรูปการศึกษาให้ได้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายเพิ่มปริมาณเละคุณภาพนักเรียน นักศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเเรงงาน เเนะเเนวการศึกษา เสนอให้นำเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มาเรียนพื้นฐานในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 จะได้ทราบว่าควรเรียนต่อสายใด ขณะที่สนับสนุนโครงการของสสค.ในการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพเป็นฐานการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้เกิดทักษะสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ใน 10 จังหวัดอุตสาหกรรมของประเทศ
ด้านนางเสาวณี จันทะพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารเเห่งประเทศ กล่าวถึงการยกระดับกำลังคนของไทยว่า เศรษฐกิจไทยติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง ไม่สามารถก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาเเล้วได้ ปัญหาเกิดจาก 3 ด้านคือ กำลังคน ทุนเเละเทคโนโลยีเเละการกระจุกตัวของการลงทุนในภาคบริการ .-สำนักข่าวไทย