สหภาพฯ รถไฟค้านดึงเอกชนร่วมเดินรถสายสีแดง

กรุงเทพฯ 21 ก.ค.-สหภาพฯ แรงงาน-การรถไฟฯ แถลงต้านนำเอกชนร่วมทุน PPP เดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ยืนยันบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้บริหารเดินรถแอร์พอร์ตลิงค์ มีความพร้อมเข้าทำงาน หลังโครงการเปิดบริการปลายปี 64 ฟันธง! เอกชนบริหารทำค่าโดยสารแพง และขอโอกาสบริหารโครงการก่อน 5 ปี ถ้าเจ๊งพร้อมถอย 


นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดแถลงข่าวพร้อมสมาชิกสหภาพฯ และผู้บริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ยืนยันถึงจุดยืนในการคัดค้านแนวทางที่จะนำเอกชนเข้ามาร่วมทุนแบบ PPP โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง รังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน และขอให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เดิม ที่ให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.ผู้บริหารเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์เป็นผู้บริหารงานเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงเนื่องจากมีการอบรมเตรียมความพร้อมของบุคลากรไว้แล้ว 

นายสาวิทย์ ยืนยันว่า หากนำเอกชนเข้ามาบริหารเดินรถสายสีแดงอีกหนึ่งเส้นทาง ก็จะเสมือนการกินรวบให้เอกชนชุบมือเปิบเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ในช่วงที่โครงการก่อสร้างเสร็จเตรียมเปิดให้บริการ รวมทั้งที่ผ่านมามีผลศึกษาชัดเจนว่าค่าบริการรถไฟฟ้าของไทยที่มีเอกชนบริหารการเดินรถสูงที่สุดในโลก  และมีตัวอย่างให้เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาเมื่อรัฐบาลเจรจาขอให้ผู้ประกอบการลดค่าโดยสาร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเดินทางให้แก่ประชาชนก็ทำได้ยากมาก


“การเจรจารอบที่แล้วเพื่อลดราคาค่ารถไฟฟ้า มีเพียงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์เท่านั้นที่ลดราคาจาก 45 บาทเหลือ 25 บาท ส่วนเอกชนรายอื่นอิดออดไม่ยอมลดราคาค่าโดยสาร  ทำให้เห็นชัดเจนว่าภาครัฐจำเป็นต้องมีระบบรถไฟฟ้าที่บริหารงานเอง ไม่เช่นนั้นเอกชนก็จะกินรวบ การบริหารเดินรถไฟฟ้าและรถไฟระบบต่าง ๆทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงเหมือนเดิมอีก” นายสาวิทย์ กล่าว

ส่วนคำถามว่าที่ผ่านมาการบริหารงานของการรถไฟฯ ขาดทุนมากทำให้ประชาชนมีความวิตก หากการรถไฟฯ หรือบริษัทลูกของการรถไฟเข้ามาบริหารรถไฟฟ้าสายสีแดงจะทำให้เกิดปัญหาขาดทุนซ้ำอีกนั้น นายสาวิทย์ กล่าวว่า อยากให้ไปทบทวนว่าการขาดทุนของการรถไฟฯ มาจากภาระการคิดราคาค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน เพื่อดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงบริการ และเมื่อมีผลขาดทุนสะสมก็ต้องมีการจัดหาเงินกู้มาจ่ายดอกเบี้ย ทำให้เป็นยอดขาดทุนสะสมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แนวทางของสหภาพฯ เห็นว่าการที่หน่วยงานภาครัฐขาดทุนเพื่อดูแลผลประโยชน์และการเข้าถึงบริการของประชาชนก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพียงแต่ขอให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นต้นเหตุของการขาดทุน

ทั้งนี้ นายสาวิทย์ กล่าวย้ำว่า การบริหารเดินรถสายสีแดงนั้น ภาครัฐควรเปิดโอกาสให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด  บริหารการเดินรถก่อน 5 ปี โดยในช่วงเวลาดังกล่าวหากยังเกิดขาดทุนอีก ทั้งสหภาพฯ และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ก็พร้อมถอนตัวออกไป


นอกจากนี้ ประธานสหภาพแรงงานฯ รฟท.ระบุด้วยว่าปัจจุบันได้รับการประสานจากกระทรวงคมนาคมว่า พร้อมจะกลับไปใช้แนวทางตามมติ คนร.เดิม โดยมีการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนในประเด็นดังกล่าวแล้ว ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นระดับหนึ่ง ดังนั้น หลังจากนี้ทางสหภาพฯ จะมีการประชุมคณะทำงาน เพื่อติดตามการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสายสีแดง  ส่วนประเด็นเรื่องความล่าช้าของโครงการนั้น จากข้อมูลพบว่างานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงมีความล่าช้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยโครงการจะยังสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2564 ไม่มีการเลื่อนเปิดโครงการไปเป็นปี 2566 แต่อย่างใด

ด้านนายชิตพล พรหมดนตรี ประธานสหภาพแรงงานฯ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (สร.รฟฟ. ) กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ เตรียมความพร้อมฝึกอบรมพนักงาน เพื่อเข้ารับผิดชอบการบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงไว้แล้ว  แต่ต้นปีที่ผ่านมาต้องชะลอการฝึกอบรม หลังมีปัญหาโควิด-19  แต่ยืนยันว่าเมื่อรถไฟฟ้าสายสีแดงเปิดให้บริการบุคลากรของบริษัทจะมีความพร้อมแน่นอน  

อย่างไรก็ตาม  หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการดึงเอกชนร่วมทุนเดินรถแบบ PPP ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการที่จะเข้าบริหารโครงการขึ้น  และอาจเกิดปัญหาสมองไหลออกจากองค์กรของบริษัทฯ  ไปสู่ภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเดินรถไฟฟ้าได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย