fbpx

สหภาพฯ รถไฟร่อนหนังสือผู้บริหารขอหยุดรถทั้งระบบ

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – สหภาพการรถไฟฯ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 พร้อมร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ รฟท.วอนหยุดเดินขบวนรถโดยสารทั้งหมด พ่วงดูแลพนักงานกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้โดยสาร



นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เปิดเผยว่า วานนี้ (2 เม.ย. 2563) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เรื่องขอให้การรถไฟฯ กำหนดมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากเข้าพบนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อเสนอแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ผนวกกับการรถไฟฯ เป็นหน่วยงานด้านการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า การทำงานที่บ้านอาจดำเนินการได้แค่บางส่วนเท่านั้น จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อพนักงานที่จะมีความเสี่ยง เนื่องจากต้องใกล้ชิดสัมพันธ์กับผู้โดยสาร และล่าสุดมีผู้โดยสารเสียชีวิตบนขบวนรถไฟด้วย


ทั้งนี้ สหภาพการรถไฟฯ จึงได้ยื่นหนังสือขอให้การรถไฟฯ หยุดเดินขบวนรถโดยสารทั้งหมด เพื่อสนองนโยบายและคำสั่งของรัฐบาลสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในบางขบวนจะต้องวิ่งรถเปล่า โดยเสนอให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศงดการเดินขบวนรถโดยสารทั้งหมด แต่หากมีความจำเป็นที่จะเดินรถบางขบวน การรถไฟฯ ต้องจัดอุปกรณ์ตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกสถานีที่จอดรับส่ง จัดเครื่องป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เจลทำความสะอาด แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันยังขาดอยู่ไม่ทั่วถึง และต้องทำความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อตู้รถโดยสารทั้งขบวน รวมถึงรถจักรเมื่อเดินทางถึงปลายทางทั้งไปและกลับ

สำหรับพนักงานในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใกล้ชิดสัมพันธ์กับผู้โดยสาร หากต้องกักตัวตามคำสั่งของรัฐบาลต้องไม่คิดคะแนนวันลา หรือพนักงานที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัว และต้องเข้ารับการรักษาตามคำสั่งแพทย์ ก็จะต้องไม่คิดคะแนนวันลาด้วย ขณะเดียวกันหากพนักงานในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวนั้น การรถไฟฯ มีคำสั่งให้ไปตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 การรถไฟฯ ต้องออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมถึงพนักงานที่ไปตรวจด้วยตัวเองแล้วพบว่าติดเชื้อฯ ให้สามารถเบิกจ่ายจากการรถไฟได้ เว้นแต่ไปตรวจเองแล้วไม่พบ บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเอง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553