กรุงเทพฯ 18
ก.ค.- “อรรถพล” ประเมินราคาน้ำมันดิบเท่าเดิมที่ 40-45 เหรียญสหรัฐบาร์เรล
แม้โอเปกพลัสจะลดกำลังผลิตในอัตราลดลง ส่วนหุ้นกู้ขายประชาชนจะออกเพิ่มจาก 1.5
หมื่นล้านบาทหรือไม่ ต้องรอดูความจำเป็นใช้เงิน
นายอรรถพล
ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า
ปตท.ยังประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ประมาณ 40-45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
คาดว่าจะอยยู่ในทิศทางทรงตัว แม้ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน
โอเปกพลัสจะมีข้อตกลง เพิ่มกำลังการผลิต
จากเดิมได้ตกลงลดกำลังการผลิตลง 9.7
ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม
ซึ่งทางซาอุดีอาระเบียได้คาดว่าอัตราการลดระดับการผลิตของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ที่
8.1-8.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้
เนื่องจากคาดว่าความต้องการใช้นันมันยังมีปัจจัยเสี่ยงจาก
จากการะบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสอง และตัวเลขการติดเชื้อทั่วโลกมีปริมาณสูง หลายประเทศมีทั้งเข้มงวดกลับมาล็อกดาวน์บางส่วนเพิ่มเติม
ซึ่งในส่วนของ กลุ่ม ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด
โดยมีแผนงานหลายระดับเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
นายอรรถพล
ยังกล่าวถึงกระแสหุ้นกู้ที่นำมาจำหน่ายแก่ประชาชนรวม 1.5 หมื่นล้านบาท ระหว่างวันที่
20-23 ก.ค.ที่มีกระแสตอบรับที่ดีว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจหุ้นกู้ของ ปตท.
ส่วนการที่จะออกจำหน่ายเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องดูหลายปัจจัย เช่น สภาวะตลาด
ความต้องการใช้เงินของ ปตท. ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินในอนาคต
ก็อาจจะพิจารณาในส่วนของขายประชาชนออกมา
แต่เบื้องต้นในปีนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องออกหุ้นกู้เพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้
ในปี 63 ปตท.ได้ขายหุ้นกู้สกุลบาทแก่สถาบันการเงินไปแล้ว 2 หมื่นล้าน และ หุ้นกู้สกุลเงิน เหรียญสหรัฐ
ประเภทไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน ต่อผู้ลงทุนในต่างประเทศ อายุ 50 ปีจำนวน
700 ล้านเหรียญ (หุ้นกู้ชุดนี้อยู่ภายใต้โครงการการออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ(Global Medium Term Note Program) ในวงเงินรวมไม่เกิน 2,000 ล้านเหรียญ
) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70% ต่อปี โดยหุ้นกู้ที่ออก เพื่อนำใช้ใน การลงทุน
และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป และ/หรือเพื่อทดแทนเงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระ
(Refinance) –สำนักข่าวไทย