กทม.ยันครอบครัวอุปทูตซูดานจากสนามบินเข้าคอนโดฯ ไม่ได้ไปจุดอื่น

กทม.14 ก.ค.-กทม.ยืนยันครอบครัวอุปทูตซูดานไม่ได้เดินทางไปจุดอื่นนอกจากสนามบินมายังคอนโดฯที่พัก ระบุขอให้ประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เตรียมบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด โดยให้ชาวต่างชาติทุกคนต้องแจ้งที่พักอาศัยและแผนการเดินทางทันทีที่เข้าพื้นที่


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) เป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 เพื่อรับทราบสถานการณ์ของโควิด-19  ในเขตกรุงเทพมหานครจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

โดยผู้ว่าฯกทม.กล่าวสั้นๆ ภายหลังร่วมประชุม ว่า ตอนนี้กทม. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัยร่วมดำเนินการสอบสวนโรคกับกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่คอนโด วัน เอ็กซ์ สุขุมวิท 26 ตั้งแต่ได้รับรายงาน ส่วนจะมีผู้ต้องเข้าข่ายสอบสวนโรคหรือกักกันตัวจำนวนกี่รายนั้นอยู่ ระหว่างรอรายงานผลการตรวจโรค แต่ทั้งนี้ตามหลักการชาวต่างชาติที่จะเข้ามาพักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร ควรจะต้องแจ้ง กทม.ตามขั้นตอน มาตรการการป้องกัรการแพร่ระบาดของโรค


ภายหลังการประชุม ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงยืนยันว่าครอบครัวของอุปทูตซูดาน ทั้ง 5 คนไม่ได้เดินทางไปสถานที่อื่นใด ในเขตกรุงเทพมหานครเลย โดยเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วตรงมายังคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยเท่านั้น  และมาทราบผลการตรวจโรคเป็น เป็นบวกหรือติดเชื้อเมื่อมาถึงคอนโดมิเนียมแล้ว จึงนำตัวไปตรวจซ้ำ ที่โรงพยาบาล ส่วนสมาชิกในครอบครัวอีก4 คนได้กักกันตัวเอง และยังไม่พบว่ามีผู้ใดติดเชื้อเพิ่ม  โดยกทม.ได้รับรบงานการติดเชื้อของเด็กหญิงวัย9ขวบ จากโรงพยาบาลเมื่อวันที่10กรกฎาคม

ขณะนี้ทางสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกันสอบสวนโรคและทำการ Sawp ผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง 7 รายและสัมผัสเสี่ยงต่ำ 15ราย ซึ่งจะทราบผลการตรวจในวันพรุ่งนี้ (15ก.ค.) พร้อม จุดเสี่ยงต่างๆภายในคอนโดมิเนียม 


ส่วนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมดังกล่าวขณะนี้ขณะนี้ได้ทำการขอตรวจแล้วจำนวน 230 ราย ซึ่งในวันนี้ได้ตรวจไปแล้วจำนวน 160 ราย จะทยอยตรวจจนครบทั้งหมด

ทั้งนี้ หากผู้ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมดังกล่าว เกิดความไม่สบายใจอยากจะทำการตรวจก็สามารถติดต่อเจ้า หน้าที่ที่ยังให้บริการในพื้นที่ได้

อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครอยากให้ประชาชนไว้วางใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ขอให้ประชาชนยังคงรักษามาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบยังคงพบว่าประชาชนยังคงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และถึงแม้กรุงเทพมหานครจะไม่ใช่ช่องทางทั้งหมดหรือจุดเริ่มต้นของโรคแต่จากเหตุการณ์นี้จะพยายามอุดรอยรั่วของมาตรการ เพื่อให้ทุกคนเกิดความปลอดภัย 

โดยหลังจากนี้กรุงเทพมหานครจะปรับการทำงานให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อพบผู้เข้าข่ายทำการสอบสวนจะทำการสอบสวนโรคและและswapทันทีรวมทั้งการแจ้งผลการตรวจจะต้องทำให้รวดเร็วที่สุด รวมถึงจะนำพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อพ.ศ.2538 มาบังคับใช้อย่างเคร่งครัดมากขึ้น เฉพาะมาตรา 34 และ 35 ซึ่งอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยต้องแจ้งที่พักอาศัยและแผนการเดินทาง ไม่มีข้อยกเว้นหรือเอกสิทธิ์ใด ๆ เพื่อร่วมกันควบคุมและป้องกันโรค หากไม่ปฏิบัติตามหรือมีการละเลยจะมีโทษตามกฎหมาย เนื่องจากช่องว่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้กรุงเทพมหานครจะทราบว่า มีชาวต่างชาติติดเชื้อก็ต่อเมื่อ โรงพยาบาลแจ้งผลมาเท่านั้น ดังนั้นต่อไปชาวต่างชาติจึงต้องแจ้งทันทีที่เข้ามาในเขตกรุงเทพมหานครว่าไปพักที่ใดและรวมทั้งแผนการเดินทางด้วย

ทั้งนี้ก่อนการประชุม ผู้ว่าฯกทม.ได้รับมอบเงินบริจาค จากคณะกรรมการมูลนิธิ พระวิษณุกรรม เพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลกลางและโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลละ 65,000 บาท / รับมอบเงินบริจาค จากคณะกรรมการศาลาโรงธรรมบ้านหม้อมูลนิธิเพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลสิรินธร และคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช แห่งละ50,000 บาท และรับมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด จำนวน 5,400 ขวด เพื่อมอบให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม. ใช้ทำความ   สะอาดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ค้านนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

“สมาคมโคเนื้อ” นำมวลชนคัดค้าน “วัวอเมริกา”

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

ราคาทอง

ฉุดไม่อยู่! ทองไทยขึ้นอีก ตามราคาโลกหวั่นสงครามการค้า

ราคาทองคำไทย ในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำนิวไฮอีก ตามราคาทองตลาดโลกที่ขยับขึ้น เพราะหวั่นสงครามการค้าโลก ด้านเงินบาทแข็งค่าขึ้นใยรอบ 6 เดือน ฉุกทองไทยไม่พุ่งแรงมากนัก