กรุงเทพฯ 14 ก.ค.-ผอ.สนามบินอู่ตะเภา แจงขั้นตอนคัดกรองโรค ยันทำตามขั้นตอน PUI ก่อนส่งเข้าที่พัก มี 31 คน หนีออกมาเอง 1 โยนให้ถามรายละเอียดศบค.
พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวถึงกรณีทหารอียิปต์เข้าพักโรงแรมในจังหวัดระยองระหว่างเครื่องบินแวะพักเติมน้ำมันและตรวจพบติดเชื้อโควิด -19 ว่า ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานอู่ตะเภาต้องปฏิบัติการตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) กำหนด โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีศูนย์ปฏิบัติการที่แต่งตั้งขึ้นโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของศบค. ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดออกกฎ กติกา การบริหารจัดการต่างๆ
“อู่ตะเภามีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีคณะทำงานที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติงานร่วมกับทางตม. คัดกรองโรคหรือสอบสวนโรค PUI หากไม่พบผู้ต้องสงสัยหรือไม่มีผู้ใดพฤติการณ์เสี่ยงต่อการติดต่อของโรค หรือไม่พบภาวะผิดปกติใดๆ ขั้นตอนก็จบลง และส่งต่อไปเข้าที่พัก ส่วนที่รับผิดชอบคือสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อรอการประเมินการคัดกรองทาง State Quarantine รับไป ทั้งนี้ ทหารคณะดังกล่าวมีทั้งหมด 31 คน คาดว่ามีเพียงหนึ่งคนที่หนีออกมาข้างนอกระหว่างเข้าพัก แต่ข้อมูลที่ถูกต้องขอให้ตรวจสอบกับทาง ศบค.” ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าว
เมื่อถามว่า คนที่หนีออกมาคือคนที่ตรวจพบเชื้อหรือไม่ พล.ร.ท.กฤชพล กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามรายละเอียดจากศบค.ทั้งหมด ยืนยันว่าขั้นตอนการตรวจสนามบินไม่พบความผิดปกติ ซึ่งการตรวจสอบทำด้านนอกเทอร์มินอล ไม่ได้เข้ามาปะปนในอาคารผู้โดยสาร เพราะเป็นลักษณะของ State aircraft มีการแจ้งเข้า-ออก ในประเทศล่วงหน้าและต้องรับอนุญาตในเรื่องแผนการบินและตารางการอยู่ในประเทศ ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้วที่ประเทศต้นทางจะต้องประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตในประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นขั้นตอนทางการทูต หรือ diplomatic clearance ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ไม่มีอำนาจยับยั้ง แต่มีอำนาจตรวจสอบตามมาตรการที่กำหนด เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส.-สำนักข่าวไทย