กทม.10 ก.ค.- ศปน.ตร.แถลงผลกวาดล้างจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบเกือบ 400 ราย ยึดทรัพย์รวมกว่า 200 ล้านบาท
พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปน.ตร. แถลงผลการดำเนินการของ ศปน.ตร. ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมกระทำความผิด เกือบ 400 ราย ตรวจยึดของกลางมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ ศปน.ตร. เร่งปราบปรามฯนั้น ศปน.ตร. ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือน มีผลการดำเนินการกับกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบดังนี้ รับแจ้งและดำเนินการ ทั้งสิ้น 801 เรื่อง, ดำเนินการเสร็จสิ้น 513 เรื่อง ,จับกุม 355 คดี, ผู้ต้องหา 393 ราย, ของกลาง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ 12 คัน, โฉนดที่ดิน 44 ฉบับ, เรื่องทางแพ่ง คู่กรณีประสงค์ไปใช้สิทธิทางศาล 6 เรื่อง,ไกล่เกลี่ยประนีประนอม 56เรื่อง,ไม่พบการกระทำความผิด 96 เรื่อง,อยู่ระหว่างดำเนินการ 288 เรื่อง
เมื่อแยกรายละเอียดรายพื้นที่ พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบส่วนใหญ่กระจายอยู่ในเขตปริมณฑล พบในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 และ 2 เป็นจำนวน 223 เรื่อง และ 101 เรื่องตามลำดับ ในจำนวนนี้พบว่า ลักษณะการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สามารถแบ่งออกเป็นลักษณะต่างๆ ของการกระทำความผิดได้ดังนี้ ดอกเบี้ยเกินอัตรา587 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 73.28, แก๊งหมวกกันน็อค 131 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ16.35, กู้ออนไลน์ 49 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 6.12, จำนำรถ 12เรื่องคิดเป็นร้อยละ 1.50, วางหลักประกัน 9 เรื่องคิดเป็นร้อยละ 1.12จำนอง /ขายฝากที่ดิน 8 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 1.00 อื่นๆ 5 เรื่องคิดเป็นร้อยละ 0.63
พลตำรวจโท ปิยะฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่รอยต่อของกรุงเทพฯกับเขตปริมณฑล โดยการกระทำความผิดส่วนใหญ่ เป็นในลักษณะของกลุ่มคนรู้จักคุ้นเคยทำการกู้ยืมเงินกันโดยมีการเรียกดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่า ที่กฎหมายกำหนด รองลงมาคือแก๊งหมวกกันน็อค และปัจจุบันที่พบการกระทำความผิดมากขึ้น โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กระทำผิดและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง คือ การกู้ยืมเงินผ่านระบบออนไลน์ หรือ Application ต่างๆ ตลอดจนรวมไปถึงการกู้ยืมเงินในลักษณะที่เป็นการอำพรางเพื่อปกปิดความผิด เช่น การเช่าซื้อสินค้าในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น”
“สำหรับบุคคล กลุ่มบุคคล หรือเจ้าหนี้นอกระบบ ที่ยังมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับ การปล่อยเงินกู้นอกระบบผิดกฎหมาย ขอเตือนให้หยุดการกระทำในทันที ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด โดยบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายในทุกฐานความผิด ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ , พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ฯ , ประมวลกฎหมายอาญา , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินฯ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อกวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบอย่างจริงจังขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยในลักษณะที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน และ สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับ เงินกู้นอกระบบ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 1 อาคาร กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 และ 0 2255 1898 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย