สาวห้างร้องถูกแจ้งความโกงภาษี 3.2 ล้าน

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – กรณีสาวพนักงานขายสินค้าในห้างฯ ถูกกรมสรรพากรแจ้งความเลี่ยงภาษี 3.2 ล้านบาท เนื่องจากมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท บีอีเอ็มซี ซึ่งตอนแรกเธอเข้าใจผิดว่าเป็น 32 ล้านบาท ทั้งที่ไม่รู้จักบริษัทนี้ วันนี้ เธอและทนายความได้ขอให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือเลื่อนนัดส่งฟ้องศาล ซึ่งมีกำหนด 13 ก.ค.นี้ 


น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ สาวห้างฯ ที่โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกว่า 3.2 ล้านบาท ยื่นขอความเป็นธรรมที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา (มีนบุรี 2) เพื่อให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือเลื่อนการขึ้นศาลออกไปก่อน หลังถูกกรมสรรพากรแจ้งความบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด กับ น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ ในฐานะกรรมการบริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด ข้อหาร่วมกันโดยรู้อยู่แล้ว หรือโดยจงใจแจ้งความเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ซึ่งสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา (มีนบุรี 2) นัดส่งตัวฟ้องศาล 13 กรกฎาคมนี้ 


ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จัก ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว และไม่รู้ว่ามีชื่อเป็นกรรมการบริษัทได้อย่างไร พร้อมเผยว่า เมื่อเดือนเมษายน 2559 ก็เคยได้รับหมายเรียกจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ซึ่งได้เข้าไปชี้แจงแล้ว ตอนนั้นตำรวจบอกว่า ต้องจ่ายเงินจำนวน 2,000 กว่าบาท แต่จำไม่ได้ว่าเป็นค่าอะไร และเนื่องจากช่วงนั้นไม่มีเงิน เพราะเพิ่งคลอดบุตรคนที่ 4 จึงแจ้งกลับไปว่าจะขอชำระภายหลัง จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่อีกเลย กระทั่งเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีหมายเรียกจาก บก.ปอศ. อีกครั้ง จึงเข้าไปพบตามวันเวลาที่นัดหมาย คือ วันที่ 25 พฤษภาคม และได้รับแจ้งว่า บริษัทฯ ค้างจ่ายภาษี จำนวน 3,247,787 บาท ซึ่งสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา (มีนบุรี 2) ได้นัดส่งฟ้องศาลในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ หากอัยการสั่งฟ้อง ตนก็อาจจะต้องติดคุก เพราะไม่มีเงินประกันตัว


ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ตรวจสอบพบว่า บริษัท บีอีเอ็มซี จำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัทจำกัด เมื่อปี 2548 มีกรรมการ 1 คน คือ น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ ประกอบกิจการซื้อขาย นำเข้า ส่งออก ตลอดจนรับติดตั้งอุปกรณ์อนุรักษ์พลังงาน ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมูลเหตุของการกล่าวหา เนื่องจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 และ ภ.ง.ด.50 รอบระยะบัญชี 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2551 แสดงผลประกอบการขาดทุนสุทธิ ไม่มีภาษีต้องชำระ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบย้อนหลังกลับพบว่า มีเงินภาษีที่ต้องชำระรวมกว่า 3.2 ล้านบาท 

ในเอกสารงบการเงินของบริษัทฯ ฉบับนี้ มีลายมือชื่อ น.ส.นันทวรรณ เป็นผู้ลงนาม พร้อมมีตราประทับของบริษัทฯ และเมื่อนำไปเทียบกับลายมือชื่อที่เจ้าตัวเซ็นในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา กลับพบว่าแตกต่างกัน โดยเจ้าตัวยืนยันไม่เคยเซ็นหรือลงชื่อในเอกสารของบริษัทดังกล่าว และทุกครั้งที่ลงชื่อจะเขียนนามสกุลลงไปด้วย

ด้านทนายความ เผยต้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อยืนยันว่า น.ส.นันทวรรณ ถูกนำชื่อไปแอบอ้างเปิดบริษัท และมีการปลอมแปลงลายมือชื่อลงนาม เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดตัวจริงมาดำเนินคดี ส่วนผลการยื่นคำร้องให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือเลื่อนนัดส่งฟ้องศาล จะทราบผลในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.). – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก