สมชัยส่งข้อมูลทุจริตเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปางให้กมธ.ป.ป.ช.

รัฐสภา 9 ก.ค.- “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ส่งข้อมูลทุจริตเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปางให้ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เอาผิด แฉ “ร.อ.ธรรมนัส” ตรวจราชการขณะมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง-สัญญาว่าจะให้ ชี้ มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นข้อมูลการทุจริตซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 จ.ลำปาง ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยขอให้ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้ และขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นเรื่องต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้ง ขณะที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว และมีการพูดชัดเจนโดยขอเสียงสนับสนุนเพื่อให้ผู้สมัครได้รับเลือกเป็นผู้แทน เพื่อช่วยให้มีความรวดเร็วในการนำเสนอโครงการพัฒนา และข้อเรียกร้องให้รัฐสนับสนุนแก้ปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การกระทำของ ร.อ.ธรรมนัส อาจจะเข้าข่ายผิดกรณีสัญญาว่าจะให้ 


ขณะที่นายสมชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ทุจริตแบ่งเป็น 4 กลุ่มเรื่อง ได้แก่ 1. ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง 2.รัฐมนตรี ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่สัญญาว่าจะให้ 3. จ่ายเงินซื้อเสียง และ 4.ให้คนไม่มีสิทธิสวมสิทธิเลือกตั้งแทนบุคคลอื่น สำหรับการเก็บข้อมูลนั้น จนถึงวันนี้ (9 ก.ค.) มีคนรายงานเรื่องทุจริตเข้ามารวม 102 ราย และมีคนที่ให้ชื่อและการติดต่อกลับ พร้อมเป็นพยาน 25 ราย นอกจากนี้ ก็ได้รวบรวมข้อมูลจากสื่อมวลชนด้วย

นายสมชัย กล่าวว่า กรณีข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง มีทั้งกำนัน 25.5% ผู้ใหญ่บ้าน 47.1% ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 37.3% อสม.52% และหัวคะแนนในพื้นที่ 64.7% ซึ่งการดำเนินการ ประกอบด้วย ให้ผู้ใหญ่บ้านทำบัญชีผู้มีสิทธิ์ที่ไม่อยู่ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง มีการเรียกประชุมชาวบ้าน และให้ผู้สมัคร รัฐมนตรีมาแนะนำตัว ใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม. และผู้ใกล้ชิด แจกเงินตามบ้าน หัวละ 300 บาท รวมถึงนำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ที่ไม่อยู่ในพื้นที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งแทน

ส่วนเหตุการณ์ที่ ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่นั้น ได้ตรวจราชการในพื้นที่เขตเลือกตั้ง  ในช่วงที่มีกฤษฎีกาการเลือกตั้งแล้ว  ในวันที่ 17 พ.ค.2563 , 6-14 มิ.ย.2563 และ 15 มิ.ย.2563 นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังไปตรวจราชการในวันที่ 18 มิ.ย.2563 ด้วย 


สำหรับโครงการที่สัญญาว่าจะให้ มีทั้งหมด 12 โครงการ อาทิ โครงการสร้างโรงอบสมุนไพร ที่ ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง มูลค่า 16 ล้านบ้าน , โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ปะ ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง มูลค่า 150 ล้านบาท , โครงการก่อสร้างฝายกั้นน้ำที่บ้านเหล่า ต.ล้อมแรด อ.เถิน เป็นต้น ซึ่งนายสมชัย กล่าวว่า เป็นการไปพูดว่าผู้สมัครจะดำเนินการประสานเพื่อให้เกิดโครงการเหล่านี้ โดยนายสมชัย ได้นำข่าวที่ ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่ตรวจราชการในเขตเลือกตั้ง มาเป็นข้อมูล โดยในข่าวระบุว่า มีการรับปากจะทำฝายกั้นน้ำให้ ซึ่งเป็นเรื่องว่า รับปากว่าจะให้ ดังนั้น ต้องติดตามว่า จะใช้เงินงบประมาณจากแหล่งใด เพราะไม่ปรากฎชื่อโครงการเหล่านี้ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ด้วย

นายสมชัย กล่าวว่า ในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ซึ่งเป็น 5 วันก่อนวันเลือกตั้ง นายสุทธิชัย จรูญเนตร ผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือ มือขวาของ ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่ติดตามงานศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในพื้นที่ที่มีการเลือกตั้ง ทั้งที่เป็นงานของทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จากนั้น ในวันที่ 18 มิถุนายน พล.อ.ประวิตร ก็ไปลงพื้นที่ติดตามปัญหาภัยแล้งในเขตเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ทั้งที่ ลำปางไม่ใช่จังหวัดที่ถูกประกาศว่าประสบภัยแล้ง อีกทั้งยังเชิญ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3 อำเภอ มาประชุมพร้อมเพรียงกัน โดยหลังจากการประชุมเสร็จ ได้สั่งการให้สำนักทรัพยากรน้ำภาค 1 กรมทรัพยากรน้ำ ทำแบบรายการใช้ประกอบการของบประมาณเพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ปะ ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง ซึ่งไม่ปรากฎในงบประมาณ 2564 เช่นกัน ต้องติดตามว่า จะใช้งบประมาณจากเงินกู้เพื่อแก้ปัญหาโควิดหรือไม่ ต่อมาในวันที่ 19 มิถุนายน ก่อนเลือกตั้งเพียง 1 วัน ผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่า โรงงานผลิตสมุนไพรอยู่ระหว่างการของบประมาณเพื่อมาดำเนินการ นับว่า เป็นความผิดกรณีสัญญาว่าจะให้ และใน พ.ร.บ.ส.ส.มาตรา 132 ระบุว่า หากกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็นทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ให้ กกต.เสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยุบพรรคการเมืองนั้น 

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการซื้อเสียง พบว่า อ.เสริมงาม ทุจริตมากที่สุด และ อ.แม่พริกน้อยที่สุด ทั้งนี้ พบว่า เป็นการซื้อเสียงถึง 97.1% สัญญาว่าจะให้ 17.6% ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง 55.9% ใช้อิทธิพลข่มขู่ 27.5% กรรมการประจำหน่วยไม่เป็นกลาง 28.4% 

นอกจากนี้ ยังพบการสวมสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด ทำให้การเดินทางกลับภูมิลำเนายากลำบาก แต่จำนวนผู้มาใช้สิทธิกลับใกล้เคียงการเลือกตั้งทั่วไป มีการสำรวจชื่อผู้ไม่สามารถมาใช้สิทธิอย่างเป็นระบบ และมีการลงบันทึกประจำวันว่า ตนเองไม่ได้มาใช้สิทธิแต่มีคนมาใช้สิทธิแทนประมาณ 30 คนที่ ต.ล้อมแรด อ.เถิน ซึ่งนายสมชัย ได้เผยแพร่คลิปเสียงสัมภาษณ์บุคคลที่ถูกสวมสิทธิการเลือกตั้งด้วย แต่นายสมชัย ระบุว่า ไม่สามารถเปิดเผยให้ฟังได้ทั้งหมด ซึ่งคลิปทั้งหมดจะส่งให้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อส่งต่อให้ กกต.ต่อไป.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย