รัฐสภา 3 ก.ค.- “จิรายุ” ชี้ ครม.แจง งบฯ64 ไม่เคลียร์ นำประเทศเข้าสู่เรดโซนด้วยมหกรรมก่อหนี้แห่งชาติ หลังรัฐบาลกู้มาราธอน ระบุ “พล.อ.ประยุทธ์” กู้คนเดียวมากกว่านายกฯ รวมกัน 28 คนในรอบ 89 ปี เตือน ขรก.เตรียมตกงาน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายงบประมาณปี 64 ว่า การชี้แจงของรัฐมนตรี โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่มีกลุ่ม 4 กุมารอยู่นั้น ดูเหมือนจะตอบแบบไม่มีจิตใจในการทำงาน ทำให้น่าเป็นห่วงว่า อาจทำให้ประเทศไทยถูกกดคันเร่งเข้าสู่เรดโซนได้ เพราะดูแล้วรัฐบาลทำงบฯ แบบฝันหวาน เตรียมจะนอนบังคับตัวเองให้ฝันดี ทั้ง ๆ ที่ไม่สามารถกำหนดฝันได้เพราะปัจจัยลบเต็มไปหมด
“จากการอภิปรายของ ฝ่ายค้านที่ทำการบ้านร่วมกันมาเป็นอย่างดี แต่รัฐมนตรีหลายคนก็ตอบแบบ เลี่ยงบาลี เรียกว่าตอบแบบเสียไม่ได้ ตอบแบบรักษากระทรวงของตัวเองไว้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีพรรคร่วมเห็นได้ชัดว่า ไม่ใส่ใจภาพรวมการจัดทำงบประมาณ ไม่ช่วยอธิบายแทนนายกรัฐมนตรีที่โดนจัดเต็มอยู่คนเดียว” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่า 7 ปีมานี้ทำให้เห็นความอันตรายของการจัดทำงบประมาณ ซึ่งถือว่า เป็นฟางเส้นสุดท้ายของประเทศ เพราะหากจัดทำแบบสุรุ่ยสุร่ายชุดความคิดเดิม ๆ เติมขึ้นมาคือเอื้อพรรคพวก แถมไม่ ดูตาม้า ตาเรือ ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว ล้มครืนถึงขั้นล้มละลายได้และอาจต้องใช้บริการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้
“วันนี้ฝ่ายค้านเป็นห่วงแนวคิด และฝีมือบริหารประเทศ ที่ยังไม่เห็นน้ำยาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลมากว่า 7 ปี ผมขอเตือนประชาชนว่าปี 2564 ถึง 2565 จะเป็นช่วงที่น่าจับตา และต้องประคองตนเองอย่างยิ่ง เพราะจากการกู้เงินของรัฐบาลจะมีสูงถึง 58% ไปแล้วซึ่งเหลืออีกเพียง 2% ก็จะเต็มวงเงินในการกู้ และยิ่งเห็นการจะทำงบประมาณซึ่งไม่ได้สนับสนุนเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจนักในปีนี้ และปีต่อไปก็จะทำให้รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินได้อีกต่อไป น่าตกใจมาก นายก 28 คนตั้งแต่สยามประเทศ ปี 2475 มาจนปี 2557 ไม่รู้กี่รัฐบาล กู้เงินรวมกันแค่ 2.295 ล้านล้านบาท แต่พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี คนนี้คนเดียวจัดเต็ม กู้มากกว่า นายกฯ 28 คนถึง 3.825 ล้านล้านบาท ” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ ยังกล่าวอีกว่า ยิ่งสภาพัฒน์ฯ ระบุในเล่มงบว่า เศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดการณ์ปี 64 จะโตประมาณ 5% นั้นยังมีความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงสูง เป็นการประเมินเข้าข้างตัวเองเกินไป แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย กลับออกมาเตือนอีกทางว่า อาจจะติดลบถึง -8.1% เสียด้วยซ้ำ ตนต้องรีบบอกพี่น้องประชาชนว่าอย่าได้นิ่งนอนใจ เตรียมตัวรับมือให้ดีเพราะอาจจะเกิดสึนามิ ทางเศรษฐกิจอาจคล้ายกับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะข้าราชการทั้งประเทศ อาจตกงานกว่าครึ่ง เพราะมีตัวอย่างแล้วในช่วงที่ประเทศไม่มีเงินและไม่สามารถกู้ได้ ต้องลดรายจ่ายประจำ
นายจิรายุ กล่าวว่า ในยุคนั้นจะใช้ ”ดุลข้าราชการ” นั่นก็คือการเลิกจ้าง ลดองค์กรของรัฐ ทหารลดกำลังพล เพราะหากปี 64-65 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และยังจัดทำงบประมาณ แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะขาดดุลงบประมาณแล้ว ก็จะไม่สามารถกู้ได้อีกแล้ว ก็จะต้องไปลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังที่ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนไม่น้อยกว่า 20% เพราะฉะนั้นอยากให้ นายกรัฐมนตรีฟังประชาชนบ้างวันนี้ .-สำนักข่าวไทย