รัฐสภา 2 ก.ค.- นายกฯ สั่งการประเมินสถานการณ์โควิด-19 รายวัน หลังผ่อนคลายกิจการกิจกรรมระยะ 5 ฝากประชาชนเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ให้ระมัดระวังตนเอง ชี้โรงแรมหลายแห่งเริ่มกลับมาฟื้นตัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า ภายหลังการผ่อนคลายกิจการกิจกรรมระยะ 5 ไป วานนี้ (1 ก.ค.) เป็นวันแรก ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบ รายงาน และสรุปผลว่า มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งตรวจสอบแล้วยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ ผู้ติดเชื้อวันนี้ (2 ก.ค.) เป็นผู้ที่มาจากต่างประเทศทั้งหมด และอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ แสดงให้เห็นว่ายังสามารถไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง
“ได้สั่งย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ ศบค. โดยเฉพาะระดับผู้ปฎิบัติให้ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบในกิจการ กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายในระยะ 5 ให้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ ต้องติดตามและประเมินผลเป็นรายวัน และต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้ด้วย เพื่อป้องกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เห็นความร่วมมือของโรงเรียนต่างๆ ขอขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ เขตการศึกษาทุกเขต ที่มีมาตรการควบคุมอย่างดีในการเปิดเรียนวันแรก หลายอย่างอาจยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ มีความลำบากและไม่สะดวก เช่น การรักษาระยะห่าง การเหลื่อมเวลาเรียน ต้องยอมรับว่า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ต้องมีมาตรการรองรับให้การศึกษาเดินหน้าได้ แม้ว่าอาจไม่ 100% แต่ในส่วนสาระสำคัญของการเรียนการสอนต้องครบถ้วน และสามารถทบทวนการเรียนได้ รวมถึง กลุ่มที่ต้องเรียนออนไลน์ ก็ต้องสามารถเรียนรู้ควบคู่กันไปด้วย
“แม้ว่าในระยะแรกการใช้ระบบออนไลน์ยังมีปัญหาบ้าง แต่ก็มีการปรับจนดีขึ้น ดังนั้น ผู้ปกครองต้องคอยกำชับบุตรหลานให้ใส่ใจการเรียนการสอน ต้องจัดระเบียบวินัย ถึงจะสามารถเดินหน้าได้ในระยะนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังขอฝากประชาชนระมัดระวังป้องกันตัวเอง ในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคม โดยเฉพาะการรวมกลุ่มและการจราจร ซึ่งรัฐบาลได้อำนวยความสะดวก ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษในบางแห่ง การไปท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยกระตุ้นและสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ชุมชนและโรงแรม ได้รับรายงานว่าโรงแรมหลายแห่งเริ่มฟื้นตัว เพราะคนไทยออกมาเที่ยวมากขึ้น ซึ่งมาจากมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของแรงงานที่มีการจ้างงานลดลง เชื่อว่าอีกซักระยะจะเริ่มมีการกลับมาจ้างงานใหม่ เมื่อสถานประกอบการและกิจการต่างๆ เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และจะทยอยกลับสู่ภาวะปกติ แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกคน
“วันนี้ทั่วโลกมีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย จึงต้องหาแนวทางทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึง การขับเคลื่อนให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น และจะพยายามหาแนวทางผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ เช่น การตั้งกองทุนและพันธบัตร เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะจะได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว .- สำนักข่าวไทย