เปิดรายละเอียดคลายล็อกเฟส 5

กทม. 29 มิ.ย. – ที่ประชุมใหญ่ ศบค. ไฟเขียวให้ผ่อนคลายกิจกรรมกิจการระยะ 5 กำชับผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด 


ถึงคิวของกิจการ/กิจกรรม กลุ่มสีแดงประเภทที่มีความเสี่ยงสูง ได้รับอนุมัติให้คลายล็อกระยะที่ 5 หลังไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยต่อเนื่องกว่า 1 เดือน เฟสนี้ ศบค.อนุญาตให้สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงเบียร์ โรงเหล้า เปิดให้บริการได้ แต่ต้องไม่เกินเที่ยงคืน จำกัดผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อคน ยืน/นั่ง ต้องห่างกัน 1 เมตร จัดโต๊ะเว้นระห่าง 2 เมตร หากทำไม่ได้ต้องมีฉากกั้นสูงมากกว่า 1.5 เมตร มีระบบระบายอากาศ มีพื้นที่สูบบุหรี่เฉพาะบุคคล 

ไม่แตกต่างจากสถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด โรงน้ำชา ต้องมีใบอนุญาตที่ถูกกฎหมาย  ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นขณะอาบน้ำ มีจุดบริการล้างมือเพียงพอ ทำความสะอาดห้อง อ่างอาบน้ำ สุขา ผิวสัมผัสบ่อยๆ ก่อนหลังบริการแต่ละครั้ง ควบคุมไม่ให้แออัด พนักงานต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นระยะ ที่สำคัญห้ามค้าประเวณี พร้อมให้คำแนะนำลูกค้าปฏิบัติตามมาตรการก่อนใช้บริการทุกราย โดยเฉพาะต้องลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ในแอปพลิเคชันไทยชนะ เพราะหากพบผู้ติดเชื้อผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบ


ศบค.ยังอนุญาตให้เปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษาทุกประเภทได้ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ให้บริการได้ และปิดในเวลา 22.00 น. ร้านสะดวกซื้อสามารถเปิด 24 ชั่วโมงได้ 

นอกจากนี้ยังผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติ ให้ 6 กลุ่ม พร้อมจัดทำความตกลงพิเศษ กับกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค โควตาที่กำหนดให้สอดคล้องกับสถานที่กักตัวทางเลือก นั่นก็คือ โรงแรมหรู ที่จับมือกับโรงพยาบาล ซึ่งคนเข้ามาต้องจ่ายเงินเองในการอยู่กักตัว 14 วัน ขั้นต้นอาจกำหนด 200 คนต่อวัน ส่วนประเทศเป้าหมายที่พิจารณา คือ 4 ประเทศและ 1 เขตการปกครอง คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

สำหรับการเข้ามาทำได้ 2 ระบบ คือ ระบบปกติ (Normal Track) ต้องกักตัว 14 วันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ส่วนระบบ Fast Track คือ มาระยะสั้นๆ เช่น มาลงนามสัญญาสำคัญ 2 วัน ไม่ต้องอยู่ 14 วัน แต่ต้องมีเงื่อนไขเข้มงวด


ศบค.ยังเห็นควรให้ยกเลิกการนั่งเว้นที่นั่งในรถขนส่งสาธารณะ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดภาคเรียน แต่ทุกคนยังต้องสวมหน้ากากอนามัย การคลายล็อกระยะที่ 5 จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง