ยังไม่พบตัว “ป้า 100 ล้าน” ปล่อยกู้ย่านรังสิต

ปทุมธานี 28 มิ.ย.- ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เร่งขยายผลติดตามบุคคลที่อยู่เบื้องหลังปล่อยกู้นอกระบบ และให้ชายฉกรรจ์บุกตีศีรษะลูกหนี้จนกะโหลกยุบ ด้านผู้เสียหายเปิดใจ เคยขู่ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จนกลายเป็นที่มาของการถูกทำร้าย



นายวีรภัทร คัมภิรานนท์ พ่อค้าข้าวผัดปู ผู้เสียหายจากการถูกชายฉกรรจ์ตีที่ศีระษะจนกะโหลกยุบ คาดว่ามาจากการทวงหนี้ที่เคยยืม “ป้า 100 ล้าน” เปิดใจกับสำนักข่าวไทยว่า ได้กู้เงิน “ป้า 100 ล้าน” เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อขยายกิจการ ซึ่งทุกวัน “ป้า 100 ล้าน” จะมาที่ห้างสรรพสินค้า พร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่ 2 ถุง ถุงหนึ่งใส่เงิน อีกถุงใส่ขยะ ทำทีเป็นคนคุ้ยขยะเพื่อปิดบังฐานะ และป้องกันกลุ่มวัยรุ่นจะได้ไม่รู้ว่าเป็นคนมีเงิน โดยภายในถุงมีเงินสดจำนวนมาก และจะปล่อยเงินกู้ให้พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดหลายแห่ง เนื่องจากดอกเบี้ยถูกกว่าเจ้าอื่น ซึ่งในการกู้กันแต่ละครั้งจะไม่มีการทำหนังสือสัญญา


ที่ผ่านมาได้กู้เงินจาก “ป้า 100 ล้าน” ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน และกู้ตั้งแต่ปี 2559 หลังจากนั้นได้คืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยเรียบร้อย ต่อมาก็ได้กู้เงินกับป้าหลายครั้ง แต่เศรษฐกิจไม่ดี จึงขอลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 5 ต่อเดือน และจ่ายคืนทุกเดือน จนกระทั่ง “ป้า 100 ล้าน” บอกว่าอยากได้เงินต้นคืน 60,000 บาท จึงได้ปฏิเสธไป เนื่องจากไม่มีเงินเลย ก่อนมีการถกเถียงกัน และ “ป้า 100 ล้าน” ขู่ว่าหากไม่หาเงินมา จะให้พวกทวงหนี้มาทำร้าย จึงบอกไปว่าเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องจะไปหาศูนย์ดำรงธรรม ก่อนเรื่องเงียบหายไป 2 ปี แต่เคยเห็น “ป้า 100 ล้าน” พูดกับร้านอื่นๆ ว่า “เดี๋ยวร้านข้าวผัดปูจะต้องโดน” จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ขึ้น

ด้าน พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สั่งชุดสืบสวน สภ.คูคต ทั้งนอกและนอกเครื่องแบบ เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังจากที่มีผู้เข้าร้องเรียนว่า ถูกชายฉกรรจ์ดักทำร้าย และคาดว่าอาจเป็นฝีมือของเจ้าหนี้นอกระบบที่เคยไปกู้ยืมเงินมา เจ้าของฉายา “ป้า 100 ล้าน”

ล่าสุด ชุดสืบสวนได้รูปพรรณคนร้าย โดยสวมเสื้อสีเขียว สวมหมวกสีแดง สวมกางเกงขายาว สวมหน้ากากอนามัยปิดปาก เดินอยู่บริเวณบันไดภายในห้างสรรพสินค้า โดยมีไม้หน้าสามเป็นอาวุธ ซึ่งลักษณะการตีนั้นหวังตีให้ตายเพราะเข้าที่ศีรษะ จึงสั่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดี เพื่อขยายผลบุคคลที่อยู่เบื้องนายทุนเงินกู้กลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่มเติม และยังไม่ได้มีการออกหมายจับผู้ใด

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการสอบปากคำนายวีรภัทร คัมภิรานนท์ อายุ 63 ปี ผู้บาดเจ็บที่ถูกคนร้ายใช้ไม้ตีที่ศีรษะจนกะโหลกยุบ และคาดว่าคนร้ายเป็นลูกน้องของแก๊งเงินกู้ฉายา “ป้า 100 ล้าน” ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า มีอาชีพขายข้าวผัดปูอยู่ที่ตลาดหน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ส่วน “ป้า 100 ล้าน” นั้นได้ใช้บริการเงินกู้เมื่อปลายปี 2559 เป็นเงิน 80,000 บาท ซึ่งได้คืนไปบ้างแบบทบต้นทบดอก เนื่องจากต้องเสียดอกเบี้ยถึงร้อยละ 10 ต่อเดือน บางเดือนจ่าย 8,000 บาท แต่ต่อมาจ่าย 3,000 บาท

ทั้งนี้ ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ถูก “ป้า 100 ล้าน” ข่มขู่ว่าจะเอาพวกเก็บเงินกู้มาทำร้าย ก่อนไม่ได้พูดคุยกันเลยนับตั้งแต่นั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม เดินสวนกับ “ป้า 100 ล้าน” ที่บริเวณลานจอดรถ ซึ่งยังแปลกใจว่า “ป้า 100 ล้าน” มาทำอะไรที่ลานจอดรถ

ต่อมาในวันเกิดเหตุเมื่อ 12 มีนาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ไปเข้าห้องน้ำที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยขณะนั้นกำลังเดินกลับไปที่รถ แต่ต่อมาก็ไม่รู้สึกตัวใดๆ กระทั่งฟื้นขึ้นมาจึงทราบว่าถูกไม้ตีที่ศีรษะ 4 ครั้งด้วยฝีมือคนทวงหนี้เพียงคนเดียว จากนั้นภรรยาของผู้เสียหาย จึงเรียกรถพยาบาลเพื่อช่วยนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ก่อนพักรักษาอาการบาดเจ็บนานกว่า 2 เดือน

สำนักข่าวไทย พยายามตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ป้า 100 ล้าน” โดยขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทราบแต่เพียงอายุ 65 ปี พบพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มผู้ค้าที่ย่านเซียร์รังสิต รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการปล่อยเงินกู้เกินกฎหมายที่กำหนด ขณะที่จากข้อมูลเบื้องต้นพบพฤติกรรมอำพรางตัว โดยจะมาที่ห้างสรรพสินค้า พร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่ 2 ถุง ถุงหนึ่งใส่เงิน อีกถุงใส่ขยะ ทำที่เป็นคนคุ้ยขยะเพื่อปิดบังฐานะ และป้องกันกลุ่มวัยรุ่นจะได้ไม่รู้ว่าแกมีเงิน  ซึ่งภายในถุงมีเงินสดจำนวนมาก

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามเรียกดอกเบี้ยเงินกู้ตามที่กฎหมายกำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งอัตราเงินกู้ตามกฎหมาย คือ ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี

ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดีในวันนี้ (28 มิ.ย.) คาดว่าน่าจะมีเบาะแสสำคัญของ “ป้า 100 ล้าน” รวมถึงจะมีการขยายผลถึงแหล่งเงินทุนปล่อยกู้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]