ยังไม่พบตัว “ป้า 100 ล้าน” ปล่อยกู้ย่านรังสิต

ปทุมธานี 28 มิ.ย.- ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เร่งขยายผลติดตามบุคคลที่อยู่เบื้องหลังปล่อยกู้นอกระบบ และให้ชายฉกรรจ์บุกตีศีรษะลูกหนี้จนกะโหลกยุบ ด้านผู้เสียหายเปิดใจ เคยขู่ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จนกลายเป็นที่มาของการถูกทำร้าย



นายวีรภัทร คัมภิรานนท์ พ่อค้าข้าวผัดปู ผู้เสียหายจากการถูกชายฉกรรจ์ตีที่ศีระษะจนกะโหลกยุบ คาดว่ามาจากการทวงหนี้ที่เคยยืม “ป้า 100 ล้าน” เปิดใจกับสำนักข่าวไทยว่า ได้กู้เงิน “ป้า 100 ล้าน” เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อขยายกิจการ ซึ่งทุกวัน “ป้า 100 ล้าน” จะมาที่ห้างสรรพสินค้า พร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่ 2 ถุง ถุงหนึ่งใส่เงิน อีกถุงใส่ขยะ ทำทีเป็นคนคุ้ยขยะเพื่อปิดบังฐานะ และป้องกันกลุ่มวัยรุ่นจะได้ไม่รู้ว่าเป็นคนมีเงิน โดยภายในถุงมีเงินสดจำนวนมาก และจะปล่อยเงินกู้ให้พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดหลายแห่ง เนื่องจากดอกเบี้ยถูกกว่าเจ้าอื่น ซึ่งในการกู้กันแต่ละครั้งจะไม่มีการทำหนังสือสัญญา


ที่ผ่านมาได้กู้เงินจาก “ป้า 100 ล้าน” ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน และกู้ตั้งแต่ปี 2559 หลังจากนั้นได้คืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยเรียบร้อย ต่อมาก็ได้กู้เงินกับป้าหลายครั้ง แต่เศรษฐกิจไม่ดี จึงขอลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 5 ต่อเดือน และจ่ายคืนทุกเดือน จนกระทั่ง “ป้า 100 ล้าน” บอกว่าอยากได้เงินต้นคืน 60,000 บาท จึงได้ปฏิเสธไป เนื่องจากไม่มีเงินเลย ก่อนมีการถกเถียงกัน และ “ป้า 100 ล้าน” ขู่ว่าหากไม่หาเงินมา จะให้พวกทวงหนี้มาทำร้าย จึงบอกไปว่าเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องจะไปหาศูนย์ดำรงธรรม ก่อนเรื่องเงียบหายไป 2 ปี แต่เคยเห็น “ป้า 100 ล้าน” พูดกับร้านอื่นๆ ว่า “เดี๋ยวร้านข้าวผัดปูจะต้องโดน” จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ขึ้น

ด้าน พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สั่งชุดสืบสวน สภ.คูคต ทั้งนอกและนอกเครื่องแบบ เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังจากที่มีผู้เข้าร้องเรียนว่า ถูกชายฉกรรจ์ดักทำร้าย และคาดว่าอาจเป็นฝีมือของเจ้าหนี้นอกระบบที่เคยไปกู้ยืมเงินมา เจ้าของฉายา “ป้า 100 ล้าน”

ล่าสุด ชุดสืบสวนได้รูปพรรณคนร้าย โดยสวมเสื้อสีเขียว สวมหมวกสีแดง สวมกางเกงขายาว สวมหน้ากากอนามัยปิดปาก เดินอยู่บริเวณบันไดภายในห้างสรรพสินค้า โดยมีไม้หน้าสามเป็นอาวุธ ซึ่งลักษณะการตีนั้นหวังตีให้ตายเพราะเข้าที่ศีรษะ จึงสั่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดี เพื่อขยายผลบุคคลที่อยู่เบื้องนายทุนเงินกู้กลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่มเติม และยังไม่ได้มีการออกหมายจับผู้ใด

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการสอบปากคำนายวีรภัทร คัมภิรานนท์ อายุ 63 ปี ผู้บาดเจ็บที่ถูกคนร้ายใช้ไม้ตีที่ศีรษะจนกะโหลกยุบ และคาดว่าคนร้ายเป็นลูกน้องของแก๊งเงินกู้ฉายา “ป้า 100 ล้าน” ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า มีอาชีพขายข้าวผัดปูอยู่ที่ตลาดหน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ส่วน “ป้า 100 ล้าน” นั้นได้ใช้บริการเงินกู้เมื่อปลายปี 2559 เป็นเงิน 80,000 บาท ซึ่งได้คืนไปบ้างแบบทบต้นทบดอก เนื่องจากต้องเสียดอกเบี้ยถึงร้อยละ 10 ต่อเดือน บางเดือนจ่าย 8,000 บาท แต่ต่อมาจ่าย 3,000 บาท

ทั้งนี้ ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ถูก “ป้า 100 ล้าน” ข่มขู่ว่าจะเอาพวกเก็บเงินกู้มาทำร้าย ก่อนไม่ได้พูดคุยกันเลยนับตั้งแต่นั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม เดินสวนกับ “ป้า 100 ล้าน” ที่บริเวณลานจอดรถ ซึ่งยังแปลกใจว่า “ป้า 100 ล้าน” มาทำอะไรที่ลานจอดรถ

ต่อมาในวันเกิดเหตุเมื่อ 12 มีนาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ไปเข้าห้องน้ำที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยขณะนั้นกำลังเดินกลับไปที่รถ แต่ต่อมาก็ไม่รู้สึกตัวใดๆ กระทั่งฟื้นขึ้นมาจึงทราบว่าถูกไม้ตีที่ศีรษะ 4 ครั้งด้วยฝีมือคนทวงหนี้เพียงคนเดียว จากนั้นภรรยาของผู้เสียหาย จึงเรียกรถพยาบาลเพื่อช่วยนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ก่อนพักรักษาอาการบาดเจ็บนานกว่า 2 เดือน

สำนักข่าวไทย พยายามตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ป้า 100 ล้าน” โดยขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ทราบแต่เพียงอายุ 65 ปี พบพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มผู้ค้าที่ย่านเซียร์รังสิต รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการปล่อยเงินกู้เกินกฎหมายที่กำหนด ขณะที่จากข้อมูลเบื้องต้นพบพฤติกรรมอำพรางตัว โดยจะมาที่ห้างสรรพสินค้า พร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่ 2 ถุง ถุงหนึ่งใส่เงิน อีกถุงใส่ขยะ ทำที่เป็นคนคุ้ยขยะเพื่อปิดบังฐานะ และป้องกันกลุ่มวัยรุ่นจะได้ไม่รู้ว่าแกมีเงิน  ซึ่งภายในถุงมีเงินสดจำนวนมาก

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามเรียกดอกเบี้ยเงินกู้ตามที่กฎหมายกำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งอัตราเงินกู้ตามกฎหมาย คือ ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี

ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดีในวันนี้ (28 มิ.ย.) คาดว่าน่าจะมีเบาะแสสำคัญของ “ป้า 100 ล้าน” รวมถึงจะมีการขยายผลถึงแหล่งเงินทุนปล่อยกู้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]

ยกอำนาจให้ทหารตัดสินใจ เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.- “อนุทิน” ยกอำนาจให้ “ทหาร” ตัดสินใจ ‘เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน’ ลั่น ขอหนุนทหารปักธงไทยให้คนไทยชื่นใจ ส่วนรัฐบาลขอเดินหน้าการทูต ยันไม่มีใครล็อบบี้ได้ ส่วนการเจรจาจะทำหลังยุติเหตุก่อกวน จ่อคุมเข้มพื้นที่เพิ่มเติม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา โดยระบุว่า ได้ทำความเข้าใจกับการทหารแล้ว ว่าเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศเมื่อไหร่ ก็จะให้ทหารได้ตัดสินใจเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังเข้ามาจะให้การสนับสนุน เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะทำเรื่องการทูต และเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่าง ๆ นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้ ตนอยากให้มีความชัดเจนในตรงนี้ เพราะที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ตน “ ผมล็อบบี้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมต้องทำให้กับคนคนไทย ประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้”นายอนถทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจ ในที่ที่เป็นของคนไทย […]

แก๊งค้ายาขนไอซ์ 450 กก. ซิ่งรถชนเกาะกลางถนน จ.อุดรธานี

อุดรธานี 21 ก.ย.-แก๊งยาเสพติดซิ่งรถยนต์ชนเกาะกลางถนน ในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบถึงกับอึ้ง พบไอซ์ 450 กก. ซุกอยู่ในกระสอบหลังรถ ส่วนคนในรถอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา 22.30 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนวงเวียนบ้านเหล่าอุดม ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และไม่พบตัวคนขับอยู่ในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นภายในรถ ที่เบาะนั่งด้านหลัง ถึงกับอึ้ง เพราะพบกระสอบ 9 ใบ อัดแน่นอยู่ด้านหลัง ตรวจสอบภายในกระสอบ มีห่อพลาสติกใสและถุงสีฟ้าลายเสือดาวรวม 448 ห่อ น้ำหนักกว่า 448 กิโลกรัม ภายในห่อมีผลึกขาวใส ลักษณะผลึกคล้าย ไอซ์ นอกจากนี้ ยังพบบัตรประชาชน นายสุทธิโชค อายุ 17 ปี ชาว อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ตรวจสอบพบ มีประวัติคดียาเสพติด 3 คดี ส่วนทะเบียนรถ […]