25 มิ.ย.-ผลตรวจน้ำในขวดของนักวิ่ง ที่โดนเจาะรูขณะออกกำลังกาย พบเป็นการวางยาจริง เป็นไซลาซีน ยาสลบที่ใช้วางยาสัตว์ผสมอยู่
จากกรณีมีชายไปออกกำลังกายแล้วสงสัยว่าตัวเองถูกวางยา คนแรกเป็นชายหนุ่ม สงสัยว่าถูกคนแอบวางยาในขวดน้ำดื่มที่วางไว้ ขณะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะตรงข้ามเทศบาลนครนนทบุรี อำเภอเมืองนนทบุรี เมื่อมาดื่มน้ำรู้สึกรสชาติเปลี่ยนไปจากเดิม ก่อนมีอาการลิ้นแข็ง ตาค้าง ต้องไปรักษาตัว เก็บขวดน้ำมาด้วย ยังพบขวดน้ำดื่มมีรูลักษณะคล้ายโดนเข็มเจาะ จึงสงสัยว่าน่าจะโดนลอบวางยา ไปแจ้งความกับตำรวจไว้
ส่วนอีกคน เป็นไกด์นำเที่ยว เหตุเกิดที่นนทบุรีเช่นกัน แต่เป็นสวนสาธารณะภายในศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ถึงขั้นสลบ ดีที่ยังโทรหาพ่อแม่ทัน พ่อแม่พาไปโรงพยาบาล โดนค่ารักษาไป 5 หมื่นบาท สงสัยว่าจะโดนวางยา หมอบอกถ้าจะตรวจต้องเสียค่าตรวจอีก 1 หมื่น จึงไม่ตรวจ ซึ่งก็ไปแจ้งความไว้เช่นกัน
วันนี้ (25 มิ.ย.) มีความคืบหน้ามาฝากกัน รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ได้ไลฟ์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า จากการนำตัวอย่างน้ำในขวดที่นักวิ่งเก็บกลับมาด้วยไปตรวจพบว่า เจอไซลาซีน Xylazine ยาสลบที่ใช้ในม้าวัวควาย ในตัวอย่างน้ำของนักวิ่งที่โดนวางยา สัตวแพทย์ชอบใช้ในแมว ซึ่งมิจฉาชีพชอบใช้สารไซลาซีนชนิดน้ำ ลักษณะใส หยอดน้ำมอมเมายาเหยื่อตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนที่จะปลดทรัพย์
นอกจากนี้ยัง รศ.ดร. วีรชัย ระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.รัตนาธิเบศร์ โทรศัพท์สอบถามผลการวิเคราะห์ไปแล้ว ซึ่งตั้งข้อสังเกตุว่าหากลายนิ้วมือแฝงที่ขวดน้ำยังอยู่ อาจตรวจเจอมิจฉาชีพ แต่ก็ไม่แน่ใจ เนื่องจากผู้เสียหายก็จับขวดน้ำไปแล้ว
ล่าสุดทีมงานคับข่าวของเรา มีโอกาสพูดคุยกับคุณ วิโรจน์ ไศละบาท นักวิ่งที่โดนวางยาในขวดน้ำดื่ม ซึ่งหลังออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดในโลกออนไลน์ กลับโดนกระแสตีกลับว่ากุเรื่องนี้ขึ้นมาเอง แม้จะเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่ช่วง2-3วันที่ผ่านมา เจ้าตัวต้องรับมือกลับนักคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ อย่างหนัก แต่พอได้ทราบผลตรวจตัวอย่างจาก รศ.ดร. วีรชัย ออกมา เจ้าตัวเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังไม่อยากให้ความคิดเห็นอะไรมากนัก เพราะอยากจะรอผลตรวจจากโรงพยาบาลรามาธิบดีก่อน และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าที่โพสต์ลงในโลกออนไลน์นั้นไม่ได้อยากจะดัง แต่เพียงอยากเตือนภัยสังคม
เมือสอบถามถึงความคืบหน้าคดีความ วิโรจน์ บอกว่า ทางด้านตัวเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เพราะไม่ทราบขั้นตอนในเรื่องกฎหมาย คงต้องให้เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ติดต่อมา.-สำนักข่าวไทย