กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- ผู้เสียหายสาว ร้องตำรวจ สน.พระโขนง หลังถูกตำรวจ สน.บุคคโล ข่มขื่น และข่มขู่คุกคามมานานหลายเดือน
โดยผู้เสียหายสาวเล่าให้ฟังว่า รู้จักนายตำรวจนายนี้ เมื่อช่วงวันที่ 14 มิถุนายน 2562 เพราะมีน้องที่สนิทกันถูกจับดำเนินคดียาเสพติด เมื่อตนเองไปเยี่ยมก็รู้สึกสงสาร อยากช่วยเหลือ ประกอบว่านายตำรวจคนนี้ ได้เข้ามาแสดงตัวว่า สามารถช่วยเหลือได้ เพราะมีคนรู้จักเยอะ ถ้าเมื่อมีการส่งตัวน้องรายนี้ไปดำเนินคดี หรือเข้าไปรับโทษในเรือนจำ จะส่งไปอยู่ในส่วนงานที่สบายไม่ลำบาก มีคนดูแลให้ แต่ต้องใช้เงินจำนวน 1,000 บาท ตนเองถึงตกลง และมีการแลกเบอร์และติดต่อกันเรื่อยมา จนเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นายตำรวจคนดังกล่าวได้ติดต่อมาและขอมาหาที่บ้าน ด้วยความที่คิดว่าเป็นตำรวจและมีครอบครัวแล้วทั้งคู่ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีเรื่องไม่ดี จึงยอมให้มาที่บ้าน และนายตำรวจรายนี้ ก็ดื่มสุรา ที่ห้องรับแขก และอ้างว่าขับรถยนต์กลับบ้านไม่ได้ จึงขอนอนพักที่โซฟาและหลอกล่อให้ตนไปปิดไฟห้อง เมื่อตนเดินไปปิด นายตำรวจคนดังกล่าวก็เข้ามาข่มขื่น ซึ่งตนพยายามต่อสู้แต่สู้แรงไม่ไหว และไม่กล้าส่งเสียงร้องเพราะนอกห้องมีลูกและหลานที่เป็นเยาวชนอยู่ ด้วยความที่อาย และคิดว่าถึงร้องไป ก็คงไม่มีใครเข้ามาช่วยได้เพราะเป็นเด็กกันหมด
และต่อมา นายตำรวจรายนี้ ยังได้ติดต่อมาให้ตนเองไปเปิดโรงแรมเพื่อร่วมหลับรอน โดยอ้างว่าหากไม่ยอมมาจะนำเรื่องที่ตนติดสินบนเจ้าพนักงานไปแจ้ง และตนต้องถูกดำเนินคดี ตนเองจึงต้องจำใจยอม และทนเรื่อยมา ซึ่งนอกจากจะมีการข่มขืนตนเองแล้ว ยังบังคับขอเงินเพื่อนำไปใช้หนี้พนันต่างๆ อีกหลายครั้ง
นอกจากนี้ตำรวจรายนี้ยังมีการเอารูปภาพอนาจารส่งให้บุคคลที่ผู้เสียหายรู้จักในข้อความเฟสบุ๊ก ทำให้ตนเองอับอายและเสียหายอย่างมาก ซึ่งตนเองพยายามขอให้นายตำรวจรายนี้เลิกยุ่งกับตน แต่จะถูกนายตำรวจคนนี้ข่มขู่ อ้างว่ารู้จักคนเยอะมีทั้งทนายความ อัยการและผู้พิพากษา ทั้งยังมาคอยคุกคามดักรอบริเวณหน้าคอนโด ทำให้ตนเองรู้สึกหวาดกลัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมแบบนี้ เพราะผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กลับทำผิดกฏหมายเอง
สำหรับนายตำรวจคนนี้ ทราบชื่อคือ ร.ต.อ.จิรันธนิน กลิ่นนิรัญ เป็น พนักงานสอบสวนอยู่ที่ สน. บุคคลโล
พันตำรวจโทพีรธรรม คำจร รองผู้กำกับการสอบสวน สน. พระโขนง ได้รับเรื่องร้องทุกข์และแจ้งความในครั้งนี้ ยืนยันว่าพนักงานสอบสวน สน. พระโขนงจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัวร้อยตำรวจเอกรายนี้มาดำเนินคดี ขอให้ทางผู้เสียหายเชื่อใจว่าพนักงานสอบสวน สน. พระโขนงไม่มีทางเข้าข้างผู้กระทำความผิด เพราะเป็นคำสั่งที่ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นกำชับอยู่ก่อนแล้วว่า ให้ดำเนินคดีทุกคดีอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าผู้กระทำผิดในคดีจะเป็นข้าราชการตำรวจก็ตาม โดยต่อจากนี้จะรวบรวมหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาแจ้งความร้องทุกข์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อความการแชท ทางแอพพลิเคชั่น LINE และ Facebook มาประกอบการสอบสวน สืบสวนและจะมีการเรียกตัวร้อยตำรวจเอกนายนี้ มาให้ปากคำ ส่วนข้อหาจะมีการพิจารณาจากพยานหลักฐานอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการเรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมไม่เกินเจ็ดวัน เชื่อว่าคดีนี้ไม่มีความยุ่งยากและจะสามารถสรุปคดีได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้เสียหาย มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน .-สำนักข่าวไทย