เบนซ์ เรซซิ่ง ปฏิเสธข้อหารวมตัวกันประลองความเร็ว

กทม.25 มิ.ย.-“เบนซ์ เรซซิ่ง” อ้างไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนและอยู่ระหว่างเดินทางกลับ รับผิดข้อหาขับรถฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร แต่ปฏิเสธผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยันไม่ได้รวมตัวแข่งรถซิ่ง


กรณีการจับกุมนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง กับพวกรวม 8 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 6 คัน ในลักษณะประมาทหวาดเสียว บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าโรงแรมรามากาเด้นท์ ก่อนถูกตำรวจ สน.วิภาวดี จับกุมดำเนินคดีฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความผิดฐานขับรถโดยประมาทหวาดเสียว จากนั้นส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีนั้น

ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้นำตัว เบนซ์ เรซซิ่ง กับพวกทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ก่อนเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน หลังกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนที่ย่านดอนเมือง ทั้งหมดใช้เส้นทางกลับบ้านเดียวกัน ใช้ความเร็วรถปกติ ยอมรับส่วนที่กระทำผิดคือ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในช่องทางหลัก หรือ ช่องทางด่วนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนป้ายสัญญาณจราจร ส่วนความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้การปฏิเสธ เพราะตนกับเพื่อนไม่ได้มีเจตนารวมตัวแข่งรถซิ่ง อีกทั้งระหว่างถูกจับกุมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และตนไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะบริสุทธิ์ใจ 


ด้านพันตำรวจเอกอำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหา คือความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ตามสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวน สน.วิภาวดี ส่งมาให้ ส่วนเยาวชนที่อายุ 14 ปี ได้คุมตัวส่งศาลเยาวชนไปก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ยังอยู่ในความควบคุม 7 คน หากจะยื่นขอประกันตัวสามารถทำได้ ผู้ที่ยื่นประกันตัว พนักงานสอบสวนจะนัดหมายเรื่องการดำเนินคดีในชั้นศาลอีกครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับคำให้การ หากรับสารภาพก็สามารถฟ้องด้วยวาจาได้ทันที แต่หากให้การปฏิเสธต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป โดยคดีนี้เป็นความผิดที่ต้องส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง กรณีการตั้งข้อสังเกตว่า เบนซ์ เรซซิ่ง ยังอยู่ระหว่างถูกควบคุมโดยการใส่กำไลคุมประพฤติ ตามเงื่อนไขการยื่นขอประกันตัวต่อศาลอาญาหรือไม่ ตำรวจได้สอบถามเบนซ์ เรซซิ่งแล้ว เบนซ์ เรซซิ่ง ยืนยันว่า ปัจจุบันไม่ได้ใส่กำไลคุมประพฤติ โดยอ้างปัญหาเรื่องต้องชาร์ตไฟกำไลฯบ่อย ขณะที่ทีมข่าวสอบถามเรื่องนี้ไปยังนายสุริยันต์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ชี้แจงว่าตามเงื่อนไขที่ขอประกันตัว เบนซ์ เรซซิ่ง ได้ยื่นความจำนงขอใส่กำไลคุมประพฤติ ประกอบหลักทรัพย์เพื่อยืนยันไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ดังนั้นตามหลักเกณฑ์แล้ว จึงยังต้องใส่กำไลฯไว้ติดตัวตลอดเวลา และหากมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่มีกำลังไฟฟ้าอ่อน ก็ต้องนำมาเปลี่ยนที่ศาลเท่านั้น ผู้ที่ใส่ไม่สามารถถอดกำไลออกเองได้ หากฝ่าฝืนดำเนินการเอง จะถูกดำเนินคดีเพิ่ม อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนการเพิ่มโทษจากความผิดที่เพิ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา ยืนยันว่าเป็นคนละเรื่องกัน ต้องพิจารณาแยกคนละความผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ