กทม.25 มิ.ย.-มูลนิธิพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มอบรถอภิบาลผู้ป่วยวิกฤติให้โรงพยาบาลตำรวจ ช่วยผู้ป่วย-ลดการสูญเสียชีวิต
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในฐานะประธานมูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มอบรถอภิบาลผู้ป่วยวิกฤติ หรือ Mobile ICU จำนวน 1 คัน มูลค่า 12 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลตำรวจ มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมพิธีรับมอบ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่จังหวัดนครราชสีมา มีประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและกระทบกระเทือนถึงสมอง ต้องเคลื่อนย้ายแม้โรงพยาบาลตำรวจจะมีเฮลิคอปเตอร์ มีหน่วยกู้ภัย แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้เพราะถ้านำคนเจ็บขึ้นที่สูงจะทำให้เลือดไหลและสมองบวม อีกทั้งโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่มีรถอภิบาลผู้ป่วยวิกฤติ สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ทำหนังสือถึงมูลนิธิฯ ขอรับการสนับสนุนรถอภิบาลผู้ป่วยวิกฤติ จำนวน 2 คัน วันนี้มอบก่อน 1 คัน อีก 1 คัน อยู่ระหว่างดำเนินการ
โดยได้รับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญ เพื่อน พี่น้อง ขอขอบคุณ ผบ.ตร. ที่เป็นสะพานบุญให้ตนและมูลนิธิฯ เพื่อน พี่น้องของตนได้มีโอกาสสร้างบุญกุศลครั้งนี้ หวังว่ารถอภิบาลผู้ป่วยวิกฤติคันนี้จะสร้างประโยชน์แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยต่อไป
สำหรับรถอภิบาลผู้ป่วยวิกฤติ (Mobile ICU) จะติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์และเทคโนโลยีการกู้ชีพครบครัน อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณืให้ออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องวัดความดันโลหิต อุปกรณ์การให้สารน้ำทางเส้นเลือด และยาที่จำเป็นเพื่อยังชีพผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุ ผู้ป่วยฉุกเฉิน และผู้ป่วยวิกฤติได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล ลดระยะเวลาผู้ป่วยก่อนถึงมือแพทย์ ซึ่งจะสามารถรักษาได้อย่างรวดเร็ว ลดการสูญเสียชีวิตของผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศฯ ได้มอบอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลตำรวจในภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งทางโรงพยาบาลมีผู้ป่วยโควิด -19 เข้ารักษาตัวสะสมทั้งหมด 38 ราย ปัจจุบันยอดผู้ป่วยเป็นศูนย์แล้ว นอกจากนี้ยังได้มอบเครื่องตรวจวิเคราะห์ชนิดของเชื้อจุลินทรีย์อัตโนมัติ ให้โรงพยาบาลนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพอย่างสูงสุดในการรักษาผู้ป่วย.-สำนักข่าวไทย

