ฟิทช์ชี้มาตรการงดจ่ายปันผลของธนาคารไทยเหมือนธนาคารกลางหลายประเทศ

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. –  ฟิทช์ชี้มาตรการงดจ่ายปันผลธนาคารไทยเหมือนธนาคารกลางหลายประเทศ รับมือผลกระทบจากโควิด-19 


ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 เป็นมาตรที่คล้ายกับหน่วยงานกำกับดูแล (regulator) ในต่างประเทศ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 และเป็นการช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านเงินกองทุนให้แก่ธนาคารไทย

หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินทั่วโลกได้ใช้มาตรการเชิงรุกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัส โดยมีการประกาศใช้มาตรการการจำกัดการจ่ายเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์ในลักษณะที่คล้ายกันในออสเตรเลีย ประเทศในกลุ่มยูโรโซน อินเดีย เวียดนามและสหราชอาณาจักร สำหรับประเทศไทย ธปท.ได้ประกาศให้ธนาคารพาณิชย์งดการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและงดการซื้อหุ้นคืน และให้ธนาคารพาณิชย์เตรียมแผนการบริหารจัดการเงินกองทุนสำหรับในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า


มาตรการดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับนโยบายโดยรวมของ ธปท. ซึ่งจะช่วยรักษาความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและกระตุ้นกิจกรรมทางธุรกิจ มาตรการดังกล่าวยังจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์รักษาเงินกองทุน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นในการสนับสนุนการขยายสินเชื่อและรองรับหนี้เสียในช่วงที่เศรษฐกิจต้องเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยง

 อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ของภาคธนาคารพาณิชย์ไทยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 15.8% ณ เดือนเมษายน 2563 ฟิทช์มองว่าเงินกองทุนเป็นจุดแข็งสำหรับธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์ ซึ่งสะท้อนได้จากระดับการประเมินความแข็งแกร่งด้านฐานะเงินกองทุนของธนาคารส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร (หรือ Viability Rating)

ทั้งนี้ ฟิทช์ได้ปรับการประเมินด้านสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานของภาคการธนาคารพาณิชย์ไทยเป็น ‘bbb’ จากเดิม ‘bbb+’ เมื่อเดือนเมษายน 2563 เนื่องจากฟิทช์คาดว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพสินทรัพย์และผลกำไรของธนาคารอีก 2 ปีข้างหน้า (สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน “Coronavirus Outbreak Increases Challenges for Thai Banks’ Operating Environment” ลงวันที่ 2 เมษายน 2563) อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ยังคงคาดว่าเงินกองทุนของธนาคารจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง (ตามสมมติฐานกรณีพื้นฐานของฟิทช์) แม้ต้องเผชิญความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่