fbpx

กรมบัญชีกลางย้ำข้าราชการตรวจสอบสิทธิ์ก่อนรักษา

กรุงเทพฯ  22 มิ.ย. – กรมบัญชีกลางย้ำผู้มีสิทธิ์และบุคคลในครอบครัว ตรวจสอบสิทธิ์เบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อรักษาประโยชน์ของตนเอง 


นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูลในฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐที่ใช้สิทธิ์สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการจำนวนมากไม่ได้รับการตรวจสอบและปรับปรุง แก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน จากทั้งผู้มีสิทธิ์และนายทะเบียนของส่วนราชการต้นสังกัด อาทิ การไม่แจ้งข้อมูลการจดทะเบียนหย่า การออกจากราชการ หรือโอนย้ายหน่วยงานใหม่ เป็นต้น ส่งผลให้ข้อมูลใช้สิทธิ์เบิกจ่ายตรงสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการจากข้อมูลบางส่วนมีความคลาดเคลื่อน ในกรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิแล้ว กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการระงับสิทธิ์ในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล และเรียกเงินคืน

“ขอย้ำให้ผู้มีสิทธิ์ตรวจสอบข้อมูลของตนเองและบุคคลในครอบครัว ก่อนเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล  อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดจากการไม่พบสิทธิ์ในระบบ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้จาก 2 ช่องทาง คือ แอปพลิเคชั่น “CGDiHealthCare” สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบน App Store หรือ Google Play หรือเว็บไซต์ http://pws.cgd.go.th/EFiling/login.jsf โดยลงทะเบียนในระบบการยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์ หากผู้มีสิทธิ์ตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือ e-mail address ไม่ถูกต้อง ผู้มีสิทธิ์สามารถปรับปรุง แก้ไข ได้ด้วยตนเอง หากเป็นการแจ้งข้อมูลการจดทะเบียนหย่า หรือมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ สกุล ขอให้แจ้งนายทะเบียนต้นสังกัด เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน ซึ่งกรมบัญชีกลางได้กำหนดรอบประมวลผลการขึ้นสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการในวันที่ 4 และ 19 ของทุกเดือน ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวันและเวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว 


โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากส่วนราชการมีการออกคำสั่งให้ข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ ออกจากราชการ หรือโอนย้ายหน่วยงาน ขอให้ส่งคำสั่งให้นายทะเบียนของส่วนราชการ เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง