กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. –เลขาธิการศาลยุติธรรม ยืนยันมีความ จำเป็นต้องเบิกตัว พันตำรวจโท บรรยิน มาขึ้น ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ในวันพรุ่งนี้ เพราะจำเลยและทนายจะต้องดูเอกสาร ไม่สามารถดำเนินการผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ได้ พร้อมประสานกำลัง สตช. คุมเข้มรักษาความปลอดภัยรอบศาลอย่างเข้มงวด
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุในวันพรุ่งนี้ 22 มิถุนายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง นัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งตัวจำเลยและทนายต้องมาดูเอกสารที่ศาล ไม่สามารถดำเนินการ ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ได้ จึงต้องเบิกตัวมาจากเรือนจำ โดย ทางศาลได้มีคำสั่ง ให้ ตำรวจศาลคุ้มเข้ม ดูแลความปลอดภัยของผู้พิพากษา และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังประสานกับ สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ เพื่อขอส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาดูเเลความปลอดภัยป้องกันเหตุร้ายหรือชิงตัวจำเลย ซึ่งก็มี เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยทั้ง กองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และหน่วยพิเศษอื่น ถือเป็นเเผนการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทั้งนี้ไม่มีความกังวลใดๆ โดยอาศัยความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงได้การประสานดูความปลอดภัยของผู้พิพากษาเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องใช้กำลังเท่าใด เฝ้าระวังจุดไหน อยู่ในเเผนรักษาความปลอดภัยขอไม่เปิดเผย พื่อป้องกันการก่อเหตุ เเต่มีการเตรียมพร้อมประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา สำหรับการข่าวขณะนี้ยังปกติ ส่วนเรื่องแผนการหลบหนีของพันตำรวจโทบรรยิน ได้รับรายงานมาหลายสัปดาห์แล้ว ในทุกคดีที่เรามีข้อมูล เบาะแสเหตุร้าย จะมีการเตรียมดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบทุกครั้ง พร้อมยืนยันการทำหน้าที่ของศาลเป็นไปด้วยความยุติธรรม ทำหน้าที่ด้วยความอิสระและเป็นกลาง ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย- สำนักข่าวไทย