กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กรมบัญชีกลางให้ผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 เบิกค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนได้
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน สำหรับผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลเอกชนได้ โดยผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ หากเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเอกชนและแพทย์มีความเห็นว่าเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 ผู้มีสิทธิ์และบุคคลในครอบครัวสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ทั้งประเภทผู้ป่วยนอกและประเภทผู้ป่วยใน โดยกรณีผู้ป่วยในเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้
1.กรณีติดเชื้อโควิด-19 การเบิกค่ารักษาพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่สถานพยาบาลเอกชนรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน จนถึงสิ้นสุดการรักษา รวมถึงการส่งตัวผู้ป่วยไปเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลเอกชนแห่งอื่นที่ได้จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวปฏิเสธการย้ายไปยังสถานพยาบาลเอกชนที่ได้จัดเตรียมไว้ หรือประสงค์จะย้ายไปรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลของเอกชนแห่งอื่น ค่ารักษาพยาบาลภายหลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้
2.กรณีไม่ติดเชื้อโควิด-19 การเบิกค่ารักษาพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่สถานพยาบาลเอกชนรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน จนถึงผู้ป่วยได้รับแจ้งผลการตรวจที่ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน หลังจากได้รับการยืนยันว่าไม่ติดเชื้อให้เบิกได้ตามหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยในสถานพยาบาลของเอกชน กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน พ.ศ. 2560
“สำหรับผู้มีสิทธิ์หรือบุคคลในครอบครัวที่มีประกันภัยให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 หากสิทธิ์ที่ได้รับเงินตามประกันภัยต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาลในคราวนั้น ผู้มีสิทธิ์มีสิทธิ์ได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์นี้เฉพาะส่วนที่ขาด โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2563 จนกว่าจะมีการยกเลิกหลักเกณฑ์นี้ ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุดที่ กค 0416.4/ ว 273 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว.-สำนักข่าวไทย