กทม.18 มิ.ย.- ทนายมั่นใจ สืบพยานปากสำคัญ คดี แทง นศ.อุเทนถวาย เตรียมซักพยานแบบปรปักษ์- แม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
ศาลอาญา นัดสืบพยานโจทก์ในคดีพนักงานอัยการคดีอาญา 4 และนาง เรวดี ทัฬหสุนทร ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องนายณัฐพงษ์ เงินคีรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ สืบเนื่องจากนายณัฐพงษ์ จำเลยใช้อาวุธมีดแทงนายธนิต หรือเต้ ทัฬหสุนทร อายุ 23 ปี อดีต นศ.อุเทนถวาย จนถึงแก่ความตาย ช่วงสงกรานต์ปี 2559 และวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลย จนนายศุภชัย พ่อนายธนิต เกิดความเครียดกระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญาเสียชีวิต
คดีนี้โจทก์ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์ประจักษ์พยานปากสำคัญเพิ่มเติมคือนายพิรวิชญ์ หรือนายตง ปุตตจินารักษ์ ประจักษ์พยาน ที่ก่อนหน้านี้มีอาการทางจิต
วันนี้ นางเรวดี ทัฬหสุนทร เดินทางมาศาลพร้อมด้วยนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ โดยมีความหวังมากและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ขอบคุณศาลอุทธรณ์และทนายความ ผู้สื่อข่าวทุกสำนักที่เมตตา การให้การของพยานปากนี้สำคัญมาก อยากให้พูดความจริงเหมือนที่เคยบอกตนว่าเห็นนายณัฐพงษ์เอามีดมาแทงลูกชายและทำให้ติดใจมาตลอด
ด้านนายอนันต์ชัย กล่าวว่า การสืบพยานวันนี้เป็นได้ 2 แนวทาง หนึ่งคือนายตง เบิกความว่าเห็นเหตุการณ์ หรือแนวทางสอง เบิกความว่าไม่เห็นเหตุการณ์ ไม่เห็นการใช้อาวุธมีด คำพิพากษาก็จะเปลี่ยนไป ซึ่งแนวคำพิพากษาฎีกา จะยึดถือคำให้การในชั้นสอบสวนเป็นคำให้การที่ปัจจุบันทันด่วน หรือไม่มีเวลาต่อเติมเสริมแต่ง ตอนหลังมากลับคำให้การ ศาลอาจจะไม่เชื่อ เป็นดุลพินิจในการชั่งน้ำหนักของศาล ฉะนั้นถ้าเบิกความว่าไม่รู้เห็นไม่ทราบ ตนคิดว่าอัยการและตนต้องใช้ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 117 วรรคหก คือถามแบบปรปักษ์ ปกติเราถามนำไม่ได้ว่าใช่ไม่ใช่ แต่ถ้าเขาเบิกความแตกต่างไปจากคำให้การชั้นสอบสวน เราจะต้องถามแบบปรปักษ์ ทำลายน้ำหนักพยานปากนี้ว่าให้การช่วยเหลือจำเลย หรือด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ แม้จะเป็นการกลับคำ ศาลก็สามารถยกขึ้นมาวินิจฉัยได้ ไม่ว่าจะออกมาแนวไหน
นายอนันต์ชัย กล่าวด้วยว่า ได้ปรึกษาอัยการแล้วก็ไม่ได้วิตกกังวล เพราะในใจตนก็มีธงอยู่แล้วว่าเขาจะพูดแบบไหน แต่ยังพูดไม่ได้ อยู่ในกระบวนการของศาล ตนไปเยี่ยมที่เรือนจำและพูดคุยกับเขาแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ เราก็ทำหน้าที่เต็มที่ มาถึงจุดนี้ดีที่สุดแล้วที่ศาลอุทธรณ์เมตตาให้มีการย้อนสำนวนมาสืบใหม่ เป็นนิมิตหมายใหม่ ต่อไปกระบวนการยุติธรรมถ้าใครที่ไม่คิดจะเอาประจักษ์พยานมาเบิกความ โดยใช้กลเม็ดเด็ดพราย ข่มขู่ ซื้อตัวพยาน เอาไปเก็บ หลบหนี ก็จะใช้วิธีนี้ได้ในกระบวนการยุติธรรมของไทย
นายอนันต์ชัย ยังระบุถึงคำให้การของนายตงโดยเหตุเกิดวันที่ 15 เมษายน 2559 นายตงให้การวันที่ 16 เมษายน 2559 และ 17 เมษายน 2559 โดยยืนยันคำให้การเดิม และมีการชี้ตัวผู้ต้องหา เป็นการยืนยันอีกที คำให้การของนายตงไม่เกินความคาดหมายตั้งแต่ตอนแรกที่ไม่มา แต่การมาวันนี้มีผลต่อการชั่งน้ำหนักพยานของศาลอุทธรณ์ .-สำนักข่าวไทย
