ฝ่ายค้านอภิปรายจวกร่างพ.ร.บ.โอนงบฯ จับกองอยู่ที่งบกลาง

รัฐสภา 17 มิ.ย.- รัฐบาลขอบคุณกรรมาธิการร่วมพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบ ขณะที่ฝ่ายค้านรุมจวก จับกองอยู่ที่งบกลาง หวั่นซ้ำซ้อนกับเงินกู้ 4 แสนล้าน ชี้ส่อขัด กฎหมาย


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. วาระ2 และ3 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ วาระที่ 2 ว่า งบกลางรายการเงินสำรองจ่าย 88,000 ล้านบาท จำแนกเป็น งบฯของหน่วยรับงบประมาณ 39,000 ล้านบาท งบฯบูรณาการ 13,000 ล้านบาท และ งบฯเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 35,000 ล้านบาท 

นายอุตตม กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ให้ความสำคัญกับหลักเกณฑ์การโอนงบประมาณที่กำหนดให้รายการที่นำมาโอน ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการสัมมนา ฝึกอบรม ประชาสัมพันธ์ จ้างที่ปรึกษา การเดินทางไปราชการต่างประเทศ รวมทั้งค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะ การจัดอีเวนท์ รายการปีเดียวที่ยังไม่ประกาศดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างภายใน 7 เมษายน 2563 รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ที่ยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายใน 7 เมษายน 2563 รวมทั้ง งบประมาณที่สามารถชะลอการดำเนินการได้โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ หรือไม่สามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งในการพิจารณาของชั้นกรรมาธิการฯ นั้น ไม่มีการแก้ไข พร้อมขอบคุณกรรมาธิการฯที่ให้ความสำคัญร่วมมือพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้เต็มที่ ซึ่งตนยินดีชี้แจงข้อซักถามของสมาชิกในแต่ละมาตรา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการอภิปราย มาตรา4 มีกรรมาธิการฯ และส.ส.อภิปรายแสดงความเห็นกันมากที่สุด เรื่องการโอนงบประมาณรายจ่าย 8.8 หมื่นล้านบาท ของหน่วยรับงบประมาณต่าง ๆ ไปตั้งไว้เป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่มีความสุ่มเสี่ยงขัดต่อกฎหมาย และการโอนงบหลายรายการมีการตัดอย่างไม่เหมาะสม

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย สัดส่วนพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การโอนงบ 8.8 หมื่นล้านบาท ไปไว้ในงบกลางนั้น ขัดต่อพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ และพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณปี 2561 เพราะงบกลางไม่ได้เป็นหน่วยรับงบประมาณตามกฎหมายที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรงบประมาณ จึงเป็นการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินผิดกฎหมายมาแล้วในคดีหวยบนดิน ดังนั้นคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้เสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ รวมถึงส.ส.ที่ลงมติเห็นชอบในวาระแรกอาจเข้าข่ายทุจริตได้ ถ้ามีผู้ร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กระทรวงสาธารณสุขถูกตัดงบถึง 1,300 ล้านบาท ทั้งที่ไม่ควรถูกตัด แต่ควรได้รับงบประมาณเพิ่ม ในฐานะที่ต้องต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 งบประมาณที่ถูกตัดไปมีทั้งงบสร้างบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล การก่อสร้างอาคารผู้ป่วย ห้องผ่าตัด ที่ถูกตัดออกในทุกภาค โดยอ้างว่าไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 7เม.ย.63 ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ถ้าหน่วยงานใดทำทันถือว่าเป็นเซียนเหยียบเมฆ งบประมาณเหล่านี้ไม่ควรถูกตัด แต่งบที่ควรปรับลดมากที่สุดคือ งบจัดซื้ออาวุธของกองทัพ


นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กรรมาธิการฯผู้สงวนคำแปรญัตติ เห็นว่า หลายประเด็นยังหาข้อตกลงไม่ได้ อาทิ การปรับลดหรือปรับเพิ่มงบประมาณที่กรรมาธิการวิสามัญ ไม่สามารถแก้ไขได้ และบางโครงการของแต่ละหน่วยงานมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการแต่กลับไม่สามารถดำเนินการต่อได้เพราะต้องโอนงบประมาณคืนกลับมาที่งบกลาง รวมทั้งมีการตั้งข้อสังเกตว่าการโอนงบประมาณกลับมารวบอยู่ที่งบกลางจะซ้ำซ้อนกับเงินกู้ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ที่จะใช้สำหรับโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ตามพระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 พ.ศ. 2563 ฉบับวงเงิน 1 ล้านล้านบาท หรือไม่

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ ตั้งข้อสังเกตถึงการโอนงบสัมมนาหรือดูงานต่างประเทศ ของกระทรวงมหาดไทยที่มีงบส่วนนี้หลักพันล้านบาทขณะที่บางหน่วยงานมีงบประมาณไม่เพียงพอต่อการดำเนินการอีกทั้งในระหว่างการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน เอกสารบางเรื่องไม่ได้รับการเสนอเข้ามา

นายประเดิมชัย  บุญช่วยเหลือ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้แก้ไขคำปรารภ โดยที่เป็นการสมควรโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 จากเดิมที่ระบุว่า ของหน่วยรับงบประมาณบางรายการ แก้ไขเป็นเท่าที่หน่วยงานไม่สามารถใช้ได้ทันของหน่วยรับงบประมาณเนื่องจากส่วนตัวไม่มั่นใจว่าการโอนงบประมาณมาที่งบกลางแล้ว รัฐบาลจะนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนได้จริงหรือไม่เนื่องจากแต่ละหน่วยงานก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณในภารกิจขององค์กร ทั้งนี้หน่วยงานที่สามารถใช้งบประมาณได้ทัน ก็ไม่จำเป็นต้องเอาเงินไปกองไว้ที่ส่วนกลางและให้เฉพาะหน่วยงานที่ไม่สามารถใช้งบประมาณได้ทันให้โอนกลับมาที่ส่วนกลาง

นายจิรายุ  ห่วงทรัพย์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย สงวนความเห็นและเสนอแปรญัตติเพิ่มคำปรารภ ว่าโดยที่เป็นการสมควรโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของหน่วยรับงบประมาณบางรายการที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เกิดความรอบคอบในการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

ด้าน นายภราดร ปริศนานันทกุล กรรมาธิการฯจาก พรรคภูมิใจไทย อภิปรายถึงเงื่อนไขโครงการที่ไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 7 เมษายน หรือลงนามไม่ทันวันที่ 3 พฤษภาคม ทั้งที่งบประมาณนี้ล่าช้า เพิ่งได้ใช้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้หลายโครงการที่สำคัญถูกโอนงบประมาณคืน และขอให้ใช้งบประมาณที่โอนเข้างบกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 พร้อมขอแปรญัตติในมาตรา4 วรรคท้าย เติมถ้อยคำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินต้องคำนึงถึงการนำไปใช้เพื่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เพื่อแก้ปัญหาตรงจุด เพราะการระบุว่าใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินสามารถนำไปใช้ในส่วนอื่น ๆ ได้ อาจไม่ตรงเจตนารมณ์ที่หน่วยราชการโอนงบมาช่วยแก้วิกฤตโควิด-19 

ด้าน น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯอภิปรายว่า ในช่วงการพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม ได้มีเหตุการณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่อย่างมาก โดยมีนายทหาร เดินเก็บเอกสารที่ระบุว่า ลับ คืนไปทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่เพิ่งแจกได้ไม่นาน ซึ่งตนคิดว่า เอกสารที่ได้เรียกขอดังกล่าว ไม่ควรอยู่ในชั้นความลับอีกต่อไป เพราะเป็นงบที่ถูกปรับแล้ว ถือเป็นการปิดกั้นการทำงานของกรรมาธิการ และส.ส.อย่างมาก เพราะการขอดูข้อมูลต่าง ๆ ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ภายในการบังคับบัญชาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กลับเป็นหน่วยงานเดียวที่ลึกลับ ไม่สามารถเรียกดูหรือแตะต้องได้เลย เปรียบเสมือนเป็นหน่วยงานที่เป็นหลุมดำ จึงไม่เข้าใจว่าที่ผ่านมา มีการขึ้นเวทีประกาศว่า กองทัพเป็นหน่วยงานที่โปร่งใส่ที่สุดได้อย่างไร เพราะความโปร่งใส่ต้องเปิดเผยข้อมูล เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการปฏิรูปกองทัพ ให้ยึดโยงกับตัวแทนที่มาจากประชาชน ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและข้อบังคับด้วยความสุจริตโปร่งใส และพร้อมที่จะถูกตรวจสอบด้วย

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า มีนโยบายน้อยมากที่ใช้งบประมาณส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นเพียงงบประมาณไฟไหม้ฟาง เช่น การแจกเงินท่องเที่ยว ขณะเดียวกันงบประมาณบางส่วนที่จำเป็นต่อการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน กลับต้องโดนตัดโอนงบประมาณกลับคืนมา ทั้งที่งบประมาณที่พัฒนาการท่องเที่ยวจากระดับล่างขึ้นมามีน้อยมาก แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจผิด การพัฒนาการท่องเที่ยวต้องพัฒนาจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่บนลงล่าง ในทางตรงกันข้ามงบประมาณเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาชุมชนไม่ได้โอนกลับมา ทำให้เกิดความสงสัยว่า ทำไมบางหน่วยงานตัดงบระดับชุมชน แต่บางหน่วยงานไม่ตัด สะท้อนให้เห็นถึงการสั่งการของรัฐบาลบกพร่อง และหน่วยงานราชการทำงานตามรัฐบาลแต่ไม่เข้าใจประชาชน การโอนงบประมาณบางอย่างกลับมาไม่ส่งผลเสียต่อราชการ แต่กลับส่งผลเสียต่อประชาชน

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมาธิการ อภิปรายว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่เหมาะสม เพราะทำให้ประชาชนและหน่วยงานราชการที่ได้รับงบประมาณไปแล้วถูกตัดมา ทั้งที่จุดประสงค์ในการโอนงบประมาณเหล่านี้ต้องการใช้เพื่อแก้ปัญหาโควิ-19 เมื่อเทียบกับงบประมาณที่กู้เงินมาก็เพียงพอแล้ว และเงินโอนนี้ก็เพียงร้อยละ 5 ไม่ควรโอนเงินกลับมา เพราะตอนนี้เหมือนการสร้างหนี้สินให้กับประเทศ อีกทั้ง ในกฎหมายยังไม่อนุญาตให้กรรมาธิการปรับลดหรือเพิ่มงบประมาณ ทำให้สภาผู้แทนราษฎรเหมือนตรายาง ทั้งที่หน่วยงานสามารถใช้งบประมาณของตัวเองใช้ในกรณีฉุกเฉินช่วยเหลือประชาชน ไม่จำเป็นต้องโอนมาเก็บไว้ที่งบกลาง ขณะเดียวกันเห็นว่ามหาวิทยาลัยและโรงเรียน กว่าจะได้งบประมาณมาเป็นเรื่องยาก และจำเป็นต่อการศึกษาของนักเรียน อีกทั้งยังไม่สามารถคืนในงบประมาณ 2564 ได้เพราะจัดทำไปแล้ว แต่ต้องไปคืนที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ตรงกันข้ามกระทรวงกลาโหม บอกว่าโอนงบประมาณกลับมาเยอะ แต่เอกสารของกระทรวงที่กรรมาธิการกำลังพิจารณากลับถูกทหารมาเก็บกลับคืนไปทั้งที่ยังพิจารณาไม่จบ จึงถามว่าใช้อำนาจหน้าที่ใดในการละเมิดการทำงานของกรรมาธิการ.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]