“ม.ร.ว.จัตุมงคล” แจงปมไขก๊อกหัวหน้าพรรค รปช.

ก.แรงงาน17มิ.ย.-“ม.ร.ว.จัตุมงคล” แจงการลาออกจากหัวหน้าพรรค รปช.เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเดินหน้าต่ออย่างที่ต้องการ รายงานนายกฯทราบแล้ว พร้อมถูกปรับออกหากจะมีปรับ ครม. แต่ขณะนี้ยังทำหน้าที่ รมว.แรงงาน อยู่  ยืนยันมีผลงาน เรื่องการช่วยเหลือผู้ประกันตนจากสถานการณ์โควิดก็ทำเต็มที่



ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)ให้สัมภาษณ์ประเด็นร้อนเรื่องข่าวที่ลาออกจากหัวหน้าพรรค หลังจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ประเมินผลงานแล้วมีความเห็นไม่ให้ผ่าน เนื่องจากช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผู้ว่างงานในระบบประกันสังคมนับล้านคน แต่การดำเนินงานของ รมว.แรงงาน กับแก้ปัญหาไม่ทันต่อความเดือดร้อน รวมถึงมีกระแสข่าวโจมตีการทำงานของกระทรวงแรงงานจากภายนอก  จึงทำให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติดังกล่าว  ว่า  การเลิกกับภรรยา และเลิกกับพรรค ไม่อธิบายจะดีที่สุด เพราะจะมีปัญหาภายหลังกันไปเปล่าๆ หลังจากนี้ได้แต่หวังว่าคนจะสนับสนุนพรรคกันต่อไป เรื่องการลาออกนั้น ได้ชี้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ได้ยินกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี จึงได้เรียนแจ้งว่าในส่วนของตำแหน่งตนเองนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงสามารถปรับเปลี่ยนได้เลยโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไร


ส่วนสถานะการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตอนนี้ก็ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็คงไปบังคับไม่ได้ แต่ยืนยันว่าพอใจการทำงานในฐานะที่เข้ามาปรับเปลี่ยนผลักดันทิศทาง การทำงานในกระทรวงแรงงานให้ไปสู่แนวทางที่ดีขึ้น ซึ่งก็ทำได้ในระดับหนึ่ง เพราะการทำงานที่จะได้ผลเป็นที่น่าพอใจต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ไม่ใช่แค่สั้นๆจะสำเร็จทั้งหมด 

ส่วนกระแสข่าวที่ลาออก เพราะผลงานไม่เข้าเป้า และมีการประเมินจากทางพรรคและกระทรวงแรงงานว่าการทำงานไม่ผ่านโปรนั้น  ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวชี้แจงว่า ไม่จริง เพราะการทำงานไม่ได้มีเป้าหมายที่ระบุชัด เจนขนาดนั้น และตัวเลขที่สื่อมวลชนนำมาเสนอในระหว่างการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีก็มีความสับสน ในส่วนของกระทรวงฯ ตนเริ่มงานในกระทรวงจากศูนย์ ซึ่งตอนนี้ก็เดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นที่น่าพอใจแต่การที่จะทำให้นโยบายประสบความสำเร็จต้องใช้ระยะเวลานาน อาจจะต้องถึง 5 ปี แต่ระยะเวลาแค่สั้นๆแค่นี้คงจะทำให้สมบูรณ์ทุกอย่างคงจะไม่ได้


สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่มีใครต่อว่าอะไรที่ลาออกเพราะคิดมาเอง เพราะอยากให้พรรคเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ อยากให้พรรคเดินไปในทิศทางที่เป็นพรรคของประชาชน ที่ลาออกสาเหตุก็ง่ายๆ ในเมื่อทิศทางที่ตัวเองกำหนด และต้องการให้พรรคเดินต่อไป แต่เมื่อคนในพรรคไม่มีใครเห็นด้วย และเมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ก็คงจะไปด้วยกันต่อไม่ได้  

ส่วนกรณีที่บอกว่าไม่ผ่านโปรหรือไม่พอใจการทำงานนั้น ตนคิดว่าไม่น่ามีใครไม่พอใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าพอใจคืออะไร ที่ออกมาเพราะแค่อยากให้พรรคเดินหน้าต่ออย่างที่ต้องการ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ภายในพรรค    ทั้งในระดับผู้บริหาร หรือสมาชิกพรรคไม่ได้มีการโกรธเคืองใดๆทั้งสิ้น

“ผมเข้ามาทำงานเพราะในชีวิตอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง จึงเสนอทิศทางของพรรคในรูปแบบที่อาจดูไม่ปกติ แต่เมื่อคนที่คอนโทรลพรรคไม่ไปด้วย ทางพรรคฟังผมนะแต่ทิศทางที่พรรคจะไป ไม่ใช่ทิศทางที่ผมต้องการจะไป ก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ และยิ่งผมไม่อยู่ก็ยิ่งต่อรองกันง่ายขึ้น “ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น