ตั้งคำถามผิดระเบียบหรือไม่ “หมอเกรียงศักดิ์”ถอนตัวรักษาการ ผอ.รพ.ขอนแก่น

สำนักข่าวไทย 16 มิ.ย.-อดีตรองปลัด สธ.ระบุ “นพ.เกรียงศักดิ์” ถอนตัวนั่งรักษาการ ผอ.รพ.ขอนแก่น ช่วยถอนฟืนออกจากไฟ แต่สงสัยระเบียบการถอนตัวออกจากตำแหน่งถูกต้องหรือไม่


นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อดีตอธิบดีกรมอนามัย อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ถอนตัวจากการเป็นรักษาการ ผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่น ก็ถือว่าเป็นการถอนฟืนออกจากไฟได้ระดับหนึ่ง แต่ตามระเบียบข้อกฎหมายแล้วผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถแถลงข่าวถอนตัวได้หรือไม่ โดยตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนระบุถึงกรณีถอนตัวมาตราที่เกี่ยวข้องอยู่ในหมวด 6 วินัย มาตรา 82 (4) มาตรา 84 มาตรา 85 กำหนดบทบาทคือ1.ผู้บังคับบัญชา มีอำนาจสั่งการ และ2.ผู้ใต้บังคับบัญชา มีหน้าที่ปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามมีความผิดผิดวินัย ตั้งแต่ไม่ร้ายแรงจนถึงร้ายแรงขึ้นกับความเสียหายในการปฏิบัติราชการว่ารุนแรงหรือไม่เพียงใดในการไม่ปฏิบัติตาม  

ดังนั้น จึงอยากตั้งคำถามว่ากรณีการแถลงข่าวถอนตัวจากคำสั่งให้ไปรักษาการ ผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่น ของผู้บังคับบัญชาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ การแถลงข่าวถอนตัวเคยมีในกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ หรืออาจเป็นวิถีใหม่ (New normal) เพราะตามระเบียบสิ่งที่ทำได้คือการที่ นพ.เกรียงศักดิ์ ต้องทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวมาถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณา ก่อนออกคำสั่งส่งตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป 


นพ.วชิระ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม หากเรื่องรักษาการ ผอ. รพ.ศูนย์ขอนแก่นคลี่คลาย แต่ประเด็นที่ 2 ที่ต้องดูกันคือ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ ซึ่งในหนังสือย้ายคือการข่มขู่พยานมีจริงหรือไม่ หากไม่ใช่จะคืนความเป็นธรรมให้อย่างไร อีกประเด็นคือข้อกล่าวหาฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งถือว่าเป็นข้อหาที่รุนแรงมาก ดังนั้นคณะกรรมการสอบวินัยที่มี นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 11 ที่ตั้งขึ้นมานั้นต้องสอบให้กระจ่างทั้ง 2 ประเด็น 

อย่างไรก็ตาม นี่คือฟืนท่อนที่ 2 หากเคลียร์ด้วยความเป็นธรรม ปัญหาก็น่าจะจบ สำหรับประเด็นที่ 3 ซึ่งอยู่นอกโรงพยาบาลขอนแก่นแล้ว คือการสอบข้อเท็จจริงกรณีโรงพยาบาลในสังกัดสธ.186 แห่ง รับเงินจากบริษัทยา 5 เปอร์เซนต์ ที่มี นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ เป็นประธานนั้น หากทำอย่างถูกต้องโปร่งใส เป็นธรรมตรวจสอบได้ก็จะสงบ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย