อผศ. 15 มิ.ย.-นายกฯ ระบุหลังคลายล็อกระยะ 4 พบเด็กจับกลุ่มแว้น ถือว่าไม่คุมตัวเอง ย้ำสำคัญสุดทุกคนต้องร่วมมือ ถ้าฝ่าฝืนอาจเคอร์ฟิวใหม่ เผยไม่อยากให้วนกลับที่เดิม ห่วงกระทบเศรษฐกิจ-สุขภาพประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตรการคลายล็อกระยะ 4 ว่า ประชาชนต้องร่วมมือกัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา(14 มิ.ย.) พบว่ามีเด็กวัยรุ่นออกมาจับกลุ่มแข่งรถจักรยานยนต์ คือคนที่ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้นสังคมและผู้ปกครองต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นหากยังเป็นเช่นนี้ ถ้าทุกคนไม่รู้จักควบคุมตัวเอง จะกลับมาประกาศเคอร์ฟิวใหม่
“เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องควบคุมดูแลกรณีที่เด็กวัยรุ่นออกมาแข่งรถจักรยานยนต์ ที่แม้ไม่มีเคอร์ฟิวต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึงจะมีความผิดเรื่องการแพร่ระบาดโรค ซึ่งวันนี้ยังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ ให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนจากด่านเคอร์ฟิวเป็นด่านจับกุมเด็กวัยรุ่นแทน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของสถานประกอบการทั้งหมดต้องช่วยกันดูแลตามมาตรการผ่อนคลายของรัฐ ต้องขอบคุณบางผู้ประกอบการที่มีมาตรการเพิ่มเติมอีก ถือเป็นการช่วยชาติ ช่วยประชาชนและธุรกิจตัวเองด้วย ทุกอย่างต้องมีสองทางเสมอ โดยรัฐบาลทำในระดับนโยบายตามลำดับจนสถานการณ์ดีขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนใช่หรือไม่ เพราะหากผ่อนปรนไปแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ทุกอย่างต้องกลับเข้าสู่ที่เดิม สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือไม่อยากให้ทุกอย่างกลับสู่ที่เดิม เพราะจะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจและสุขภาพ
“ต้องดูว่าเมื่อผ่อนคลายระยะ 4 แล้ว สถิติการการแพร่ระบาดในแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ วันนี้ยังโชคดีที่พบว่าเป็นการแพร่ระบาดจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันตัวของรัฐ หรือ State Quarantine ที่รัฐตั้งขึ้นมาเพื่อดูแล จึงสามารถควบคุมได้ โดยในช่วงแรกประชาชนยังไม่ได้รับความร่วมมือ แต่วันนี้ได้เห็นประโยชน์ว่าที่ทำไปแล้วได้ผลดีอย่างไร ทุกอย่างอาจจะไม่เสรี 100% เพราะด้วยข้อจำกัดด้านสุขภาพ” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย