จันทบุรี 12 มิ.ย.-สัตวแพทย์-นักวิชาการ ลุยจับค้างคาวมุงกุฎในถ้ำกลางป่า จ.จันทบุรี ตรวจจหาเชื้อโควิด-19 หลังพบเมืองจีนค้างคาวมุงกุฏมีเชื้อโควิด-19 พบเมืองไทยมีค้างคาวสายพันธุ์นี้ถึง 23 สายพันธุ์ แต่ยังไม่เคยมีการค้นหาเชื้อไวรัสมาก่อน
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” พร้อมด้วย ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี จากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้ร่วมกันตรวจหาค้างคาวภายถ้ำสะดอ หมู่ 2 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยมุ่งเน้นไปที่การค้นหา “ค้างคาวมงกุฎ” พบว่ามีอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ 18.00 น. – 03.00 น.ของคืนวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา จับมาได้มากกว่า 100 ตัว นำมาตรวจสอบ เลือด น้ำลาย และอุจจาระ ก่อนนำตัวอย่างที่เก็บได้จากค้างคาวชนิดนี้ไปหาเชื้อโควิด 19 อย่างละเอียดในห้องแล็ปต่อไป
ดร.สุภาภรณ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องเริ่มตรวจสอบค้างคาวมงกฎ เนื่องจากมีรายงานจากประเทศจีนว่าเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในคนมีลักษณะเดียวกันกับไวรัสที่พบในค้างคาวมุงกุฎ ที่สำคัญมีการพบค้างคาวชนิดนี้ในไทยด้วย ซึ่งมีถึง 23 สายพันธุ์ จึงจำเป็นต้องค้นหาโรคและไวรัสโควิด 19 ในค้างคาวมุงกุฎทุกสายพันธุ์ในเมืองไทย และเป็นครั้งแรกของไทยที่มีการหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ในค้างคาวมุงกุฏอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ การวิจัยเรื่องโรคจากค้างคาวที่เมืองไทยทำมาเกือบ 20 ปี ยังไม่เคยมีการตรวจสอบค้าวคาวมุงกุฏแต่อย่างด จึงยังไม่มีข้อมูลว่าค้างคาวมุงกุฏมีเชื้อโควิด 19 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้ามองการพบเชื้อโควิด 19 ในค้างคาวมุงกุฎแบบเดียวที่พบค้างคาวสายพันธุ์นี้ในประเทศจีน เมืองไทยก็มีโอกาสจะพบเชื้อไวรัสนี้ แต่อัตราการติดเชื้อจะมีโอกาสมากหรือน้อย ต้องตรวจสอบกันต่อไป ส่วนเชื้อโควิด 19 ที่จะหมดไปจากเมืองไทย ไวรัสเดียวกันนี้จะกลับมาเกิดขึ้นในไทยจากค้างคาวมุงกุฎหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินอาหารของคนไทย หากไม่กินค้างคาวก็ยากจะได้รับเชื้อ แต่ที่เป็นห่วงคือคนที่ยังนิยมกินค้างคาวเป็นอาหาร มีโอกาสจะติดเชื้อได้ง่ายอย่างยิ่ง
ด้านนายสัตว์แพทย์ภัทรพล เปิดเผยว่า เป็นที่น่ากังวลที่ยังมีคนนิยมกินค้างคาว เพราะมีความเชื่อผิด ๆ การกิน การจับ มีโอกาสจะได้รับเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคใด ๆ ก็ได้ จึงจำเป็นต้องทำคู่มือว่าด้วยเรื่องการอยู่ค้างคาวอย่างปลอดภัยแจกจ่ายให้ประชาชน ขณะนี้กลุ่มนักวิจัยกำลังศึกษาเส้นทางการอพยพ เส้นทางการหากินของค้างคาว โดยเน้นไปที่ค้างคาวมุงกุฏ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสหรือโรคที่มจากค้างคาวในอนาคต เป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับไวรัส แต่วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุด คือการไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติหรือบุกรุกป่า ไม่ล่า ไม่ค้าสัตว์ป่า เชื้อโรคใดๆ จากสัตว์ป่าก็ไม่สามารถมาสู่คนได้.-สำนักข่าวไทย