กรมธนารักษ์ 10 มิ.ย. – กรมธนารักษ์เดินหน้าเปิดประมูลที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์หารายได้เข้ารัฐ หวังทำรายได้ตามเป้าหมาย 15,000 ล้านบาท พร้อมจับมือเครือข่ายมอบอาหารกล่องบรรเทา ส่งตรงถึงผู้เดือดร้อนตกงานจากปัญหาโควิด เริ่ม 15 มิ.ย.
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากกรมธนารักษ์ผ่อนปรนค่าเช่า ค่าธรรมเนียมให้กับผู้ประกอบการ ผู้ค้ารายย่อยลดภาระค่าเช่า ขณะนี้กำลังศึกษาข้อเสนอของภาคเอกชนลดค่าเช่าร้อยละ 30-50 แต่มีเงื่อนไขห้ามปลดพนักงานต้องให้ทำงานต่อเนื่องแม้เผชิญกับปัญหาโควิด คาดว่าสรุปได้เร็ว ๆ นี้ และเพื่อหารายได้เข้ารัฐเพิ่มเติมให้ได้ตามเป้าหมาย 15,000 ล้านบาทในปี 2563 อาทิ การเปิดประมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน จังหวัดหนองคาย มุกดาหาร เพราะยังมีภาคเอกชนสนใจเข้ามาร่วมพัฒนา การนำที่ราชพัสดุริมถนนสุขุมวิทเก่า ย่านบางบ่อ บางปู ซึ่งรกร้างว่างเปล่านำกลับมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ พื้นที่ริมถนนสุขุมวิท 61 เนื้อที่ 7-8 ไร่ เปิดให้ภาคเอกชนเช่า 30 ปี ภาคใต้ เช่น พื้นที่บริเวณด่านชายแดนสะเดา 30 ไร่ มีศักยภาพทำประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อีกมาก
รวมทั้งท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ กว่า 400 ไร่ สามารถพัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้า สวนสาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงสนามกอล์ฟบางพระ เป้าหมายค่าธรรมเนียมช่วงลงนามสัญญา 300 ล้านบาท และค่าเช่ารายปี 10 ล้านบาทต่อปี และยังมีท่าเรือสงขลา ค่าธรรมเนียมลงนามสัญญา 500 ล้านบาท การนำพิพิธภัณฑ์ อาคารเก่าร้อยปี ทรัพย์สินเหล่านี้นำกลับมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง ถูกยึดเป็นของรัฐ ตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน จากผู้กระทำผิด และปัญหายาเสพติด เตรียมเปิดประมูลในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ การบริหารทรัพย์สินของรัฐเหล่านี้จะมีรายได้เข้ารัฐเพิ่มเติม เพราะในช่วงปัญหาโควิดคลี่คลายยังมีภาคเอกชนสนใจเข้าประมูลและต้องการพัฒนาทรัพย์สินของรัฐในขณะนี้
อีกทั้งพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ หน้าโรงกษาปณ์ รังสิต และถนนจักรพงษ์ พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ด้วยบริการจัดทำเหรียญเลเซอร์หน้าเหมือนให้กับนักท่องเที่ยวราคา 50 บาทต่อเหรียญรวมทั้งยังพร้อมจัดทำให้กับข้าราชการผู้เกษียณอายุ ทั้งของกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นที่ต้องการสั่งจอง เพื่อจัดทำเป็นที่ระลึกช่วงการเกษียณอายุราชการตามที่สั่งจอง
นายยุทธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรองรับนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กรมธนารักษ์พร้อมจับมือกับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมแบ่งปันน้ำใจมอบอาหารกล่องแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศ เตรียมเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป เพื่อประสานให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ คลังจังหวัด ธอส. ร่วมกันแจกจัดอาหารกล่องแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ทั่วประเทศ สำหรับพื้่นที่กรุงเทพฯ พร้อมคัดเลือกผู้ค้ารายย่อยเวียนรับจ้างทำข้าวกล่อง เพราะร้านค้ารายย่อยขายอาหารไม่ค่อยได้ในช่วงนี้อยู่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์สิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะมีรายชื่อผู้เดือดร้อน การช่วยเหลือข้าวกล่องให้กับผู้เดือดร้อนสักมื้อนับว่าช่วยลดภาระค่าครองชีพได้อย่างมาก เมื่อหน่วยงานในกระทรวงการคลังร่วมกันช่วยเหลือคาดว่าจะครอบคลุมผู้เดือดร้อนมากขึ้น
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังขับเคลื่อนโครงการเปลี่ยนชุมชนเป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพื่อพัฒนาเป็นสถานที่สำหรับประชุมและเป็นตลาดแห่งใหม่ให้กับประชาชนในท้องถิ่นเพิ่มเติม และขยายวันการจัดตลาดในชุมชนเพิ่มขึ้นด้วย โดยมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการในพื้นที่มีช่องทางนำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีคุณภาพมาจัดจำหน่ายในราคาย่อมเยา รวมถึงสนับสนุนทำให้ชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน.-สำนักข่าวไทย