BIG STORY : บุกจับพ่อลูกสร้างหลักฐานเท็จ ฮุบที่ดินสงฆ์ 3,800 ไร่ คุมตัวสอบเข้ม

จันทบุรี 9 มิ.ย. – ชุดปฏิบัติการ “หนุมานกองปราบ” จู่โจมจับกุม “ลุงบุญช่วย” พร้อมลูกชาย หลังพบหลักฐานชัดปลอมแปลงเอกสารเพื่อครอบครองที่ดินธรณีสงฆ์ 3,800 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินพิพาทมูลเหตุอดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ยิงทนายความคู่กรณีเสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 2 คน เจ้าหน้าที่คุมตัวสอบเข้ม ส่วนอดีตภรรยา “พล.ต.ต.ธารินทร์” ร่ำไห้ ขอผู้ต้องหารับผิด ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงตกใจ 2 พ่อลูกถูกจับ เพราะเห็นชอบทำบุญ


เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ (9 มิ.ย.) ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน 20 นาย และชุดปฏิบัติการกองกำกับการ 2 กองบังคับกราบปรามปราม พร้อมอาวุธครบมือนำหมายค้นจากศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 32/21 หมู่ 10 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี และจับกุมตัวนายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 80 ปี และนายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร อายุ 43 ปี บุตรชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาฐานเบิกความเท็จต่อศาล, ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ และร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยเมื่อเข้าไปถึงพบผู้ต้องหาทั้งสองคนยังคงนอนหลับพักผ่อน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมกับตรวจยึดเอกสารหลักฐานภายในบ้านพักจำนวนหลายรายการไว้เป็นหลักฐาน


สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ได้ส่งตัวแทนเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความเอาผิดนายบุญช่วยว่ามีพฤติกรรมยักยอกที่ดินของมูลนิธิฯ 3,800 ไร่ ซึ่งเป็นรอยต่อของ อ.เขาคิชฌกูฏ และ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยมีการสวมสิทธิ์การครอบครองและนำไปออกโฉนดโดยมิชอบด้วยการแจ้งเท็จต่อศาลแพ่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นมีการฟ้องร้องกับครอบครัวของเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินกันมากกว่า 13 คดี และเป็นชนวนเหตุให้เกิดเหตุการณ์ที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ก่อเหตุยิงทีมทนายความของคู่กรณีภายในศาลจังหวัดจันทบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพรวม พล.ต.ต.ธารินทร์ และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน เมื่อปลายปีก่อน


จากนั้นกองบังคับการปราบปรามได้โอนสำนวนคดีทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลพร้อมสืบสวนข้อเท็จจริง กระทั่งพบพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิด ก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับทั้ง 2 คนมาดำเนินคดี 

คุมตัวสอบสวนเข้ม กองปราบชี้ชัดสร้างหลักฐานเท็จ

หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามทันที แต่เบื้องต้นนายบุญช่วยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ และพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่การเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักไม่พบเอกสารหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน แต่ในทางคดีตำรวจพบว่าผู้ต้องหาได้สร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา โดยหลังจากมีการซื้อขายที่ดินในปี 2515 มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยได้มอบหมายให้นายบุญช่วยเป็นผู้ดูแล ต่อมามีการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อเปลี่ยนแปลงชื่อเอกสารครอบครองที่ดิน น.ส.3 และขอออกโฉนดเป็นชื่อของตัวเอง

อดีตภรรยา “พล.ต.ต.ธารินทร์” ร่ำไห้ ขอผู้ต้องหารับผิด

ด้าน น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ได้นำรูปภาพและอัฐิของ พล.ต.ต.ธารินทร์ มารอพบนายบุญช่วย และนายกิตติพงษ์ พร้อมบอกว่าหลังจากต่อสู้คดีมานานหลายสิบปี จึงเดินทางมาเพื่อพบตัว เพราะต้องการให้ทั้งสองคนยอมรับความจริงว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ครอบครัว ขายให้กับพระในนามมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย เพื่อใช้ประโยชน์เป็นธรณีสงฆ์ ส่วนคดีที่นายบุญช่วยฟ้องร้องฐานฟ้องเท็จกรณีการครอบครองที่ดินทั้ง 3 คดีนั้น ศาลชั้นต้นได้สั่งลงโทษจำคุกตนและทนายความรวม 7 ปี แต่รอลงอาญาไว้ก่อน ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมยื่นอุทธรณ์

ก่อนหน้านี้ นายมนัส พวงลำเจียก ผู้จัดการมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ และนายชวาลิน พึ่งบุญ ณ อยุธยา ทนายความมูลนิธิฯ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อขอบคุณตำรวจที่ช่วยคลี่คลายคดีให้กระจ่างต่อสังคม รวมทั้งขอบคุณ พล.ต.ต.ธารินทร์ ที่เสียสละชีวิตทำให้คดีนี้มีการตรวจสอบย้อนหลัง จนทุกอย่างคลี่คลาย และทำให้ที่ดินถูกนำไปใช้ประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้ คาดว่าพนักงานสอบสวนกองปราบจะสอบปากคำนายบุญช่วย และนายกิตติพงษ์ ตลอดทั้งคืน และเบื้องต้นข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาทั้งสองคน คือเบิกความเท็จต่อศาล, ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ และร่วมกันยักยอกทรัพย์

ชาวบ้านใกล้เคียงตกใจ 2 พ่อลูกถูกจับ เพราะส่วนตัวเห็นชอบทำบุญ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่บริเวณบ้านพักของนายบุญช่วย พบเป็นบ้านพักหรูหลังใหญ่ 2 ชั้น ปลูกอยู่ในเนื้อที่กว้างขวาง มีรั้วลวดหนามกั้นอาณาเขตโดยรอบ ประตูทางเข้าเป็นประตูเลื่อนสแตนเลส อัลลอยด์ ปิดไว้มิดชิด ตัวบ้านอยู่ลึกเข้าไปตามถนนคอนกรีตกว่า 50 เมตร ขอบชิด บรรยากาศเงียบเชียบ เนื่องจากไม่มีคนพักอาศัย ภายหลังจากสองพ่อลูกเจริญสถาพร ถูกกองปราบบุกรวบตัวไป

สอบถามชาวบ้านในชุมชนบริเวณใกล้เคียงกับบ้านพักของนายบุญช่วย  นายสมบัติ แซมสีม่วง เจ้าของร้านขายของชำ บอกว่า รู้จักนายบุญช่วย กับลูกชาย แต่ไม่ค่อยสนิทกัน ส่วนใหญ่จะพบในงานบุญที่วัด ส่วนเรื่องที่กองปราบบุกมาจับกุมตัวนั้น ไม่ทราบเรื่อง มีเพียงชาวบ้านบางส่วนพบเป็นมีรถตู้เจ้าหน้าที่มาจอดที่หน้าบ้าน และรับตัวสองพ่อลูกขึ้นรถไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปที่สวนของนายบุญช่วย ได้พบกับนายสมพร กลับใช่ อายุ 66 ปี คนงานเฝ้าสวน และได้สอบถามถึงเรื่องที่นายบุญช่วย ถูกกองปราบจับกุมตัว นายสมพร บอกว่า ทำงานอยู่กับนายบุญช่วย มานานกว่า 40 ปี และรับรู้เรื่องการซื้อขายที่ดินจากนายสมพล โกศลานันท์ บ้าง แต่ไม่ทราบรายละเอียด เมื่อครั้งที่มีคดีฟ้องร้อง ตนเองก็ถูกฟ้องด้วย ในฐานะที่เป็นพยานและให้การเท็จ โดยในศาลชั้นต้นจังหวัดจันทบุรี และชลบุรี มีคำพิพากษายกฟ้อง จากนั้นจึงมีการฟ้องกลับ ศาลตัดสินฝ่ายคู่กรณีมีความผิด ฐานเบิกความเท็จและพิจารณาโทษจำคุก2 ปี แต่ให้รอลงอาญา หลังจากนั้นก็มีการร้องเรียนฟ้องกันไปมา ตนเองก็ไม่ได้รับรู้และคิดว่าคดีจบไปแล้ว 

ส่วนนายเถลิงศักดิ์ บำรุงธรรม อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่หมู่ 14 ต.ทุ่งเบญจา บอกว่า เรื่องการฟ้องร้องคดีความต่าง ๆ ไม่มีใครรับรู้ จนมาทราบข่าวตอนมีเหตุการณ์ยิงกันในศาล แต่ในส่วนตัวและที่ชาวบ้านรู้คือ ให้ความเคารพนับถือนายบุญช่วย เพราะช่วยเหลือเรื่องส่วนรวม และจากการที่ได้ทราบข่าวว่านายบุญช่วย และลูกชาย ถูกเจ้าน้าที่กองปราบบุกจับตัว ก็รู้สึกตกใจ แต่ก็ให้กระบวนการของกฎหมายตัดสินต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]