ทนายดาหน้าเตือนสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม เสี่ยงติดคุก

กทม. 29 พ.ค. – ทนายดาหน้าเตือนสร้างหลักฐานเท็จติดคุก ขณะที่ “มงคลกิตติ์” เคลื่อนไหว พรุ่งนี้เตรียมไปรัฐสภาพร้อมแม่แตงโม เพื่อส่งตรวจดีเอ็นเอต่อที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมแต่งตั้ง “บุญถาวร ปัญญาสิทธิ์” เป็นที่ปรึกษากฎหมายในคดีแตงโมเพิ่มเติม


หลังจากเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) เสร็จสิ้นพิธีเก็บเถ้ากระดูกของนักแสดงสาวแตงโม ที่คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลองสี่ จ.ปทุมธานี ทั้งนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ต่างยืนยันว่าไว้ใจ “บังแจ็ค” เตรียมส่งคืนโทรศัพท์ของแตงโมมาในเร็วๆ นี้ พร้อมกับปกป้องบังแจ็ค ในฐานะที่บังแจ็คเป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน ทำให้วันนี้เหล่าทนายดังต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ กังวลเรื่องการสร้างพยานหลักฐานเท็จ

เพจเฟซบุ๊กทนายรัชพล ศิริสาคร Fanpage ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ได้ข่าวว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดผ้าขาวแล้วส่งไปตรวจ dna ผมอยากจะเตือนว่า การสร้างหลักฐานเท็จ อาจจะติดคุกได้ เพราะเห็นคุณแม๊ส่งของใช้ส่วนตัวของแตงโมไปที่อเมริกา ซึ่งมันอาจจะมี dna ของแตงโมติดอยู่ หากเอาไปถูกับผ้าขาว ก็ทำให้ผ้าขาวมี dna ของแตงโมติดได้


ส่วนคนอื่นๆ ที่สมรู้ร่วมคิด ต้องรับโทษด้วยเช่นกัน ถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องที่ไม่ได้แต่งเติมสร้างหลักฐานเท็จก็ว่ากันไป ช่วยกันค้นหาความจริงเป็นเรื่องดี ผมเองก็ตามข่าวอยู่ อยากให้ความจริงปรากฏ แต่มันต้องเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องแต่ง ผมว่ามันแปลก เพราะผ้าขาวมันควรมาถึงไทยตั้งนานแล้ว และจริงๆ มันไม่จำเป็นต้องส่งไปอเมริกาเลย ตลกสิ้นดี”

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ก็มีความเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยได้โพสต์ข้อความว่า “น่าเป็นห่วงว่าคดีแตงโมจะมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จหรือเปล่า

กรณีการอ้างว่ามีวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ(ไทย อยู่ๆ โผล่ไปอเมริกาแล้วคนในไทยไปเอามาใช้ในคดี ที่ห่วงคือต่อให้ตรวจเจอ DNA ผู้ตายจะยืนยันยังไงว่าไม่มีคนเมคขึ้น” , “มีลูกเพจส่งมาถามว่า แม่ส่งโทรศัพท์ไป บังแจ็คบอกว่าไม่ได้มีแค่โทรศัพท์แล้วโชว์กล่องใหญ่ อาจจะมีของใช้ส่วนตัวแตงโม ต่อมาบังแจ็คส่งผ้าขาวกลับมา” แบบนี้จะน่าเชื่อถือแค่ไหน ถ้าแม่ส่งอย่างอื่นไปด้วยที่มี DNA แตงโม? คือคนถามๆ ว่าเกิดมีคนเอาdnaที่ส่งจากไทยไปป้ายในผ้าขาวที่อเมริกาแล้วส่งกลับมาตรวจ แบบนี้ใช้เป็นวัตถุพยานได้กี่%”


“มงคลกิตติ์” เคลื่อนไหว พรุ่งนี้เตรียมไปรัฐสภาพร้อมแม่แตงโม
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. หลังจากเหล่าทนายดังมีการเคลื่อนไหว ที่เฟซบุ๊กบัญชีส่วนตัวของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้โพสต์ตอบโต้ว่า “เนื่องจากเริ่มมีขบวนการใส่ร้ายวัตถุพยาน ใส่ร้ายแม่แตงโม ผมจึงขอแต่งตั้งนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายในคดีแตงโมเพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

และยังโพสต์ว่า พรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ผมพาคุณแม่ภนิดา (แม่แตงโม) มาร่วมรับ-เปิด วัตถุพยาน จากกรรมาธิการสามัญสิทธิมนุษยชนฯของวุฒิสภา เพื่อส่งตรวจดีเอ็นเอต่อที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เวลา 10.00 น. อาคารรัฐสภา

และยังได้มีการแชร์เฟซบุ๊กของนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ที่ปรึกษากฎหมายในคดีแตงโม ที่ออกมาระบุ ถึงเหล่าทนายดัง หรือสื่อที่ออกมาตั้งข้อสงสัย โดยเตือนให้เคารพกฎหมายด้วย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า-กทม.อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนภาคกลาง รวม กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศร้อนในตอนกลางวัน

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก เสียชีวิต 2 ราย

เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่วัดไทยในเขตบรองซ์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ ช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพระไทยที่จำพรรษาในวัด

ปฏิบัติการกวาดล้าง “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งขนยาเสพติดรายใหญ่ของภาคเหนือ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท หลังพบช่วง 2 ปีนี้ ขนไอซ์จากชายแดนลงไปภาคกลางไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เฉพาะที่ถูกจับได้ 3 ครั้ง ยึดไอซ์ได้กว่า 3,000 กิโลกรัม