บุรีรัมย์ 6 มิ.ย.- หน.บ้านพักเด็กฯ บุรีรัมย์ เผยแม่ของนักเรียนหญิง ม.2 ไม่ได้รู้เรื่องหรือยินยอมให้พ่อเลี้ยงข่มขืนลูกสาวตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเอาผิดตามกฎหมายถึงที่สุด ส่วนการยุติตั้งครรภ์อยู่ระหว่างหารือทีมสหวิชาชีพและความเห็นชอบจากครอบครัว โดยคำนึงถึงเด็กเป็นสำคัญ ขณะที่เด็กสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น
กรณีนักเรียนหญิง ม.2 รายหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ตั้งท้อง 2 เดือน และญาติพาไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่เด็กบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าองค์เทพเป็นคนทำ แต่ต่อมาตำรวจสืบสวนจนได้ข้อมูลเบาะแสว่าเด็กถุกพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา กระทั่งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบุรีรัมย์ได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กรับมาอยู่ในความดูแล และแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองหงส์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ จากนั้นพ่อเลี้ยงรายนี้ได้เข้ารับทราบ 2 ข้อหา คือ “กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ,อนาจารเด็กซึ่งอยู่ในความปกครอง” ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งฝากขังผลัดแรกที่เรือนจำนางรอง
น.ส.พัทธ์ธีรา ขุนชะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้บ้านพักเด็กยังดูแลเด็กผู้เสียหายไว้ก่อน จากการประเมินพบว่าเด็กมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ร่าเริง สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้ ซึ่งตามกรอบก็สามารถอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กได้ถึง 3 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางครอบครัว และตัวเด็กเองด้วย หากทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านตามปกติได้ และจะให้นักจิตวิทยาประเมินสภาพจิตใจเด็กอย่างต่อเนื่อง ส่วนการยุติการตั้งครรภ์นั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก ต้องประสานความร่วมมือกับทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญทางครอบครัวต้องร่วมในการตัดสินใจด้วย และต้องคำนึงถึงผลกระทบและประโยชน์ของเด็กเป็นสำคัญ
น.ส.พัทธ์ธีรา ยังกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าแม่ของเด็กรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่ยอมแจ้งความนั้น เท่าที่พูดคุยกับแม่ของเด็กได้ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องการกระทำของสามีหรือพ่อเลี้ยง และไม่ได้ยินยอมตามที่ถูกกล่าวหา เพิ่งมารู้เรื่องพร้อมกับทุกคน และแม่ของเด็กประสงค์ที่จะเอาผิดสามีให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แม่ของเด็กไม่จำเป็นจะต้องไปแจ้งความเพิ่มเติมอีก เพราะในฐานะที่บ้านพักเด็กฯ รับเด็กไว้ในความอุปการะก็สามารถดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กได้ ซึ่งได้ทำการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว ยกเว้นว่าแม่ประสงค์ที่จะเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ก็สามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย